วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555

LOOPER (2012)


LOOPER (2012)

ความรู้สึกของหนังคล้ายกับ Inception ตรงที่
1.ตอนจบปล่อยให้คนคิดต่อ
2.ตัวอย่างดูแล้วไม่ได้บอกแนวทางของหนังได้เท่าไหร่
3.เนือหา แนวคิด อัดแน่นเต็มเอียดมากับฉาก แอคชั่น

โดยหลังดูจบ ความรัก อนาคต การตัดสิน คือ 4 เรื่องที่อยากพูดถึง
1.ความรัก - ความรักเป็นพลังที่ทรงพลังแม้ตัวแทนของมันจะเป็นสีชมพู น่ารักหวานแหวว แต่ในความน่ารักมันก็มีด้านมืดของมัน คือ การยึดติด หลง อยู่กับความรัก และมันช่างทรงพลังไม่แพ้กัน

2. อนาคต - อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน เชื่อว่า มีหลายคนที่อยากรู้อนาคตและไม่อยากรู้พอๆกัน ที่อยากรู้เป็นเพราะเราอยากโกง ถ้ารู้ว่าทำนี้แล้วเก่งจะได้ทำอย่างนี้ไปเลย ถ้าทำอย่างนี้แล้วไม่รอดจะได้ไม่ทำ การรู็อนาคตก็นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงปัจจุบันและ อนาคตนั้นก็เปลี่ยนไปอยู่ดี

3.การตัดสิน - บางครั้งเราก็หลงลืมไปตัดสินคนรอบตัว เขาต้องเป็นอย่างนี้ เขาต้องเป็นอย่างนั้น เธอต้องทำอย่างนี้ซิ ต้องไม่ทำแบบนั้นนะ เพราะเราลืมไปว่าเขานั้นมีสิทธิ์เลือก แม้จะเป็นตัวเราในอดีต ก็มีสิทธิ์เลือกชีวิตของตัวเอง ไม่ใช่ให้ตัวเราในอนาคตมาสั่ง

4.สภาพแวดล้อม - ประเด็นนี้คล่ายกับหนังเรื่อง Chronicle ที่พูดถึงเด็ก ที่เปลี่ยนแปลงไปในสภาพแวดล้อมที่ต้องเผชิญ

และในตอนจบ หลายคนเถียงกันว่าจะเป็นยังไงต่อ ก็คงต้องบอกว่า ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตไปเตอะ

*** คำที่ปิดบนโปสเตอร์หนังฉบับไทย "เขาถูกตัวเองในอนาคตตามล่า" ต้องเปลี่ยนเป็น "เขาต้องตามล่าตัวเองในอนาคต" น่าจะถูกต้องกว่า

IMDB : 8.2
Rotten tomato : 93%

ARGO (2012) เบื้องหน้าเบื่องหลัง ใครเล่าจะรู้


ARGO (2012)
หนังสารคดีที่อิงจากเรื่องจริง ของหน่วย CIA ที่ต้องเข้าไปช่วยตัวประกันชาวอเมริกัน 6 คนที่ติดอยู่ในการประท้วงในประเทศอิหร่าน โดยการปลอมตัวเข้าไปแสร้งถ่ายภาพยนตร์

2 ชั่วโมงใน ลิโด้
แม้ตัวเอกจะเป็นสายลับ แต่เนื้อหาไม่ได้สนุกสนาน ตื่นเต้น แอ๊คชั่น เหมือนหนังสายลับที่เรารู้จักกันโดยทั่วไป ที่มีรหัสเป็นชื่อบ้าง ตัวเลขบ้าง อะไรบ้าง

หนังจู่โจมคนดูด้วยความเครียด และความจริงจัง (สถานะการณ์ในหนังถ้าฉายก่อนหน้านี้ซักปี 2 ปีคงโดนแบนในประเทศเราแน่นอน) การประท้วงที่รุกรามเป็นความรุนแรง

หนังเดินเนื้อเรื่องเริ่มจากต้นเหตุของการประท้วง ไปจนเหตุการณ์ที่เริ่มบานปลาย การวางแผนเข้าช่วยเหลือของหน่วยงานรัฐ การลงพื้นที่จริง และ จบโดยการเล่าถึงเหตุการณ์จริงและรูปภาพจากเหตุการณ์ประกอบ (เพราะฉะนนั้นจอดำแล้วอย่ารีบออกจากโรง)

ความเครียมจริงจังของหนัง ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เครียดที่สุดที่ดูมาในรอบปี แม้จะมีมุขตลกบ้างบางช่วงแต่ไม่ได้ทำให้ความเครียดหายไป แค่ลดแผ่วลงนิดหน่อยเท่านั้นเอง
ความเครียดของหนังทำได้ดีจากหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นสถานะการณ์ที่ผู้ประท่วงบุกจู่โจม
ความหวาดระแวง การหลบภัยที่ต้องอยู่อย่างๆหลบๆซ่อนๆ จนถึง ภาษาการสื่อสาร
การที่ถูกคนใส่สุดทหาร หน้าตาดุดัน มีอาวุธอยู่ในมือ ตะโกนโฮกฮ้ากอยู่ตรงหน้าด้วยภาษาที่ไม่รู้จัก แม้จะบอกว่า "ฉันรักเธอ เธอน่ารักจัง จุบุจุบุ" แต่เมื่อไหร่ไม่เข้าใจ ความกดดันก็พร้อมเข้าถาโถมเพราะตัวเราคิดว่าแมร่งเล่นตูแน่

แต่หนังจากอเมริกาก็ไม่พ้นอวยประเทศตัวเอง พยามยามพูดถึง มนุษยธรรม ความเป็นเสรี การปฏิบัติ และการยกย่องคนทำความดี หนังพูดถึงสิ่งดีๆของอเมริกาแทบทั้งหมด แล้วโยนความผิดไปให้ทางอิหร่าน ทั้งทีต้นเหตุของเรื่องราวเกิดจากการ แทรกแซงเข้าไปปลดประธานาธิบดีของอิหร่าน แล้วแต่งตั้งกษัตริย์ไปปกครองแทน (ให้เดาน่าจะเป็นเพราะผลประโยชน์จาก ทองคำสีดำ)
จนประชาชนต่อต้าน ขับไล่กษัตริย์ และประท้วงขอให้ส่งผู้กระทำความผิดกลับมาลงโทษ

แต่ถึงกระนั้นกระนี้ เรื่องจริงเบื้องหลังก็ไม่มีใครรู้ แค่เรื่องในประเทศเราเองเรายังไม่รู้ความจริงเลย จะไปถามหาถึงอิหร่าน สหรัฐ ของเรื่องหลายสิบปีก่อนก็ไกลเกินไป
ขอแค่บทเรียนจากเรื่องเก่าๆ ส่งข้อคิด เป็นแนวทางต่อคนรุ่นใหม่ ถึงการอยู่ร่วมกันได้ แม้เห็นต่าง เท่านี้ที่ประวัติศาสตร์จะทำได้ก็พอ

IMDB : 8.2
Rotten tomato : 94%

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

สยามวาระ: ความทุกข์โดยสังเกต (11 เม.ย. 55)

พท.ชีวิต - ปลดสัมภาระที่มาไซมาร่า 4Apr12

พื้นที่ชีวิต - เอเวอร์เรสต์ 22Mar12

พื้นที่ชีวิต - สรรพสิ่งหนึ่งเดียว 4Jul12 (เขื่อน/ป่าแม่วงศ์)

พื้นที่ชีวิต - เชอร์โนบิล

วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555

GATE OF THE WORLD : Chapter 1 ยินดีต้อนรับ


มันเหมือนกับจักรวาลที่มืดมิด ดวงดาวเป็นเหมือนแสงสีขาว ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่า แสงเหล่านั้นเคลื่อนตัวผ่านผมไปอย่างรวดเร็ว หรือตัวผมเองที่เป็นฝ่ายเคลื่อนที่ ข้างหน้าเป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง สีสันมันช่างคล้ายโลก ยิ่งเข้าใกล้ดาวเคราะห์แสงสีขาวเหล่านั้นผลันเปลี่ยนเป็นมีสีสัน บ้างแดง บ้างเหลือ บ้างเขียว สีสันถูกระบายจนเต็มไปหมด ภาพเบื้องหน้าช่างเต็มไปด้วยสีสัน ก่อนจะมืดดับลง

ความรู้สึกว่าทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหวลงแล้ว แต่ภาพเบื้องหน้ายังคงดำมืด
ผมค่อยๆลืมตาจึ้นช้าๆ ภาพเบื้องหน้ายังคงลานเลือน รอจนตาปรับสภาพได้แล้วจึงมองเห็นภาพบริเวณโดยรอบ ท้องฟ้าที่ฟ้ยิ่งกว่าในโลกของความจริง ก้อนเมฆสีขาวบริสุทธ์ ทุ่งหญ้าสีเขียวที่กว้างใหญ่ยาวไกลไปจนถึงขอบฟ้า แสงแดดอ่อนๆที่ลอดผ่านใบไม้ให้ร่มเงาความรู้สึกเวลาสายลมพัดผ่านมันเหมือนจริงจนยากที่จะเชื่อเหลือเกิน
เฮ้ๆ ชอนเสียงเรียกทำให้ชอนต้องหันมาตามเสียง แต่สิ่งที่สะดุดตาเขาคือต้นไม้ ต้นไม้ที่ให้ร่วมเงาอยู่นั้นมันใหญ่ ใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา เทียบกับขนาดของตัวคนเราเป็นได้แค่กิ่งเล็กๆที่แตกแขนงออกมาเท่านั้น ถ้าจะให้คนมาโอบก็ต้องหลักหลายสิบคน หรือจะเอาผ้ามาผูกก็คงต้องสั่งตัดผ้ายาวหลายเมตรกันใหม่ นอกจากต้นไม้ แสงสีฟ้ากับผู้คนก็ทำให้เขาตะลึงไม่แพ้กัน แสงสีฟ้าที่พุ่งวาบๆอยู่บนพื้นพร้อมกับผู้คน ในตอนแรกที่เขาไม่เห็นนั้นเพราะเจายืนอยู่หน้าสุดนี่เอง
ปล่อยให้หาตั้งนาน นึกว่าไปเกิดอยู่บนยอดไม้ซะแล้วคิง เพื่อนสนิทของชอน กับใบหน้าหล่อเหลากับผมสีทองลุคใหม่ที่ถูกเซ็ตเข้าทรงไว้เป็นอย่างดี เดินเข้ามาหาแล้วโอบคออย่างสนิทสนม
ผมว่าเรารีบไปกันเถอะครับ คนเริ่มเยอะแล้วเด๋วเข้าเมืองจะลำบากอัล รีบพูดขึ้น ตอนนี้เขาอยู่ในมาด เด็กหนุ่มผมขาว ความสูงยังถูกคงไว้เท่าเดิม แต่ผมที่ย้อมเป็นสีขาวถูกรวบไว้ด้านหลัง ความยาวของผมก็เกินบ่าลงมาหน่อยเท่านั้นเอง
โทษทีครับ พอดีคุณชอนเกิดทางนี้เลยมองไม่เห็นอัลรีบพูดขึ้นหลังเห็นหน้าชวนสงสัยของชอน ในจุดที่ผมกับคุณคิงเกิด อยู่อีกด้านหนึ่งของต้นไม้ครับ ซึ่งพอมองลงไป ก็จะเจอกับเมืองเบื้องหน้าพอดีอัลพูดขณะเดินนำ พร้อมกับหลบผู้เล่นใหม่ที่เข้ามา ซ้ายทีขวาที


ถึงแล้วครับคุณชอน นั้นละครับจุดหมายแรกของเราอัลหยุดเดินพร้อมกับชี้ให้ดูเบื้องหน้า
ปราสาทหินอ่อนสีขาว ที่มีกำแพงเมืองยาวสุดลูกหูลูกตา หลังคาบ้านที่รายล้อมปราสาท การบรรยายออกมาเป็นคำพูดนั้นคงยากที่จะอธิบายภาพตรงหน้า ยิ่งหลักสถาปัตยกรรมไม่ต้องพูดถึง มันล้วนผสมปนเป ปราสาทสีขาวที่อยู่กลางเมืองหอคอยแยกซ้ายขวา เสน่ห์ของสถานที่แห่งนี้ตึงผู้เล่นที่เข้าใหม่ได้ชะงัดนัก อาจด้วยมุมองจากจุดนี้ถูกและถ้าเป็นการจัดวางไว้ให้ผู้เล่นต้องมนต์เสน่ห์ของเกมส์แล้วละก็ เขาก็ควรได้ 10 คะแนนสำหรับจุดนี้
จากจุดนี้ถึงตัวเมืองก็ประมาณ 5 นาที ผมว่าเรามาวอร์มร่างกายกันหน่อยดีกว่านะครับ สุดเสียงอัลก็วิ่งนำลงไปตามทางข้างล่างก่อนแล้ว


ตอนนี้เราอยู่กันในเมือง ระยะที่บอกต้องเดินประมาณ 5 นาที เรามาถึงกันเร็วกว่านั้นมาก เพราะทั้ง  วิ่ง เดิน กระโดด ซิกแซก ที่ต้องใช้กริยามากมายเพราะระหว่างทางคนวิ่งนำนั้นเดี๋ยวกระโดด เดี๋ยวหลบซ้ายหลบขวา มีอยู่หลายทีถึงกับกระโดดเกาะต้นไม้โรยตัวข้ามฝูงชนไป
พอถึงตัวเมือง ผมก็ถามเจ้าตัวดีว่าจะวิ่งทำไม มันก็ตอบหน้ายิ้มๆวา

"ช่วงก่อนเข้าเมืองคนทำเกมส์เขาทำไว้ให้ชินกับการเคลื่อนไหวนะครับ ผมเลยพาคุณชอนกับคุณคิง ทดสอบการเคลื่อนไหวซักหน่อย ถ้าลองวิ่งตามผมทันแบบนี้ก็หายห่วงครับ คงไม่ตายตอนต้นๆ"

คำพูดของอัลไม่ได้เกินเลยถ้าพูดถึงทักษะการเล่นเกมส์ การเรียนรู้ หรือ การทำความเข้าใจ ผมยังไม่เคยเห็นใครเก่งเท่าอัลมาก่อน ในโลกความจริง อาชีพหลักของอัลคือ บล็อกเกอร์ นักเขียนบทสรุปเกมส์ชื่อดัง เกมส์ใหม่ เกมส์ยาก อัลเข้าไปลุยเบิกทางให้ก่อนเสมอ ส่วนอาชีพรองของอัล หรือ อาชีพหลักของผมคือนักศึกษา


เมื่อ 1 เดือนก่อน

การผจญภัย ความท้าทาย ลี้ลับ ปริศนา ภารกิจ
เวทมนตร์ คาถา วิชายุทธ ลมปราณ
จักรพรรดิ ขุนพล จอมปราชญ์ จอมคาถา นายพราน
โลกแฟนตาซี ดินแดนเวทย์มนตร์คาถา อาณาจักรที่สูญหาย
ทุกอย่างนี้รอทุกท่านอยู่ในโลกใหม่
“ GATE OF THE NEW WORLD ”

เป็นไงสุดยอดเลยไหมครับหลังจากเล่นคลิปวีดีโอจบ เด็กหนุ่มผมดำเจ้าของเครื่อง IPAD9 ก็รีบพูดแทรกขอความคิดเห็นจาก อีก 2 หนุ่มที่รุมดูอยู่ข้างๆ
หนุ่มคนแรกหน้าตาหล่อเหลา ผมสีดำตัดสั้นถูกเซ็ตไว้เข้ากับรูปหน้า หูข้างขวาใส่ตุ้มหูเรียบๆไว้หนึ่งอัน ร่างกายสมส่วนสูงโปร่งแบบนายแบบ
อีกคนไว้ผมดำยาวปะบ่า ใบหน้าขาวเนียน ออกแนวหวานเหมือนผู้หญิง รูปร่างสูงโปร่งเตี้ยกว่าคนแรกไม่น่าถึง 5 เซน นัตย์ตาดูง่วงตลอดเวลา
ส่วนผู้พูดรูปร่างไม่สูงเหมือน 2 คนแรก หน้าตาเข้มคมคาย ผมดำสั้นถูกปล่อยไว้อย่างธรรมชาติ ใบหน้ายิ้มแย้ม ใต้กรอบแว่นทำให้เขาดูเป็นมิตรยิ่งขึ้น
ไหนบอกว่าจะมีแผนการใหญ่ ชวนเล่นเกมส์ใหม่อีกแล้วเหรอวะเด็กหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลายังไงฉันก็ ม่ายอาวววว
"เกมส์ก่อน แกก็พาฉันไปลุยดันที่เลเวลสูงโครตๆ เพราะแกจะเอาข้อมูลมาเขียนบลอค ฉันงี้เหนื่อยแทบตาย"
"แต่คุณคิงก็ไม่ตายนิครับ" อัลเด็กหนุ่มตัวเล็กยื้มเถียง
"ก็ใช่ไม่ตาย แต่ดันนั้นมันเป็น ดันวิญญาณ แกก็รู้ฉันกลัวผีขนาดไหน ขนาดอยู่ในเกมส่์ยังรู้สึกเลยว่าหัวใจฉันโครตเต้นแรง" พูดจบ อีกคนที่นั่งเงียบตลอดก็หัวเราะขึ้น
"5555"
ไม่ต้องหัวเราะเลย แกรู้ใช่ไหมแกเลยฉิ่ง เจ้าชอนคิงโบ้ยมาทางเขา ทำให้เด็กหนุ่มหัวเราะ
"เอาน่าๆ ไหนนายว่ามีแผนว่ามาซิ" ชอนหันกลับไปสนใจอัล
"คือผมได้..." อัลกำลังจะเริ่มพูดก็โดนตัดบทซะก่อน
"เฮ้ย ชอน นายเอาจริงเหรอ เดี๊ยว อื้ออี่้..." เจ้าคนค้านโดนชอนเอามือปิดปากได้แต่ส่งเสียงอู้อี้
"คือผมได้ข้อเสนอมาให้ร่วมเป็น GM นะครับ แล้วก็อนุญาตให้มี Sup-GM ได้นะครับ ผมเลยจะลองมาชวนคุณ2คนก่อน" อัลเสนอหัวข้อทำเอาเจ้าคนไม่เห็นด้วยหันกลับมาสนใจ
"แล้วมันเป็นยังไงละ sup-gm เนี่ย" ชอนเริ่มถาม

"อืมมม.  มันคงเหมือนตำรวจนอกเครื่องแบบมั้งครับ คือเล่นเป็นผู้เล่นปกติ แต่จะค่อยสืบข่าว ส่งข่าว รายงานเรื่องน่าสนใจมาให้ GM อย่างบั๊ก หรือ เหตุการณ์ที่อันตรายต่อผู้เล่นอื่น อย่างนี้น่ะครับ"
"แล้วถ้าเป็นมันจะได้อะไรตอบแทนมั่งไหม" คิงถามอย่างสนใจ
"ออ ก็เงินเดือนจากบริษัทนิดหน่อย ไอเท็ม แล้วก็.... " อัลชี้ไปที่หัว
"ความรู้จาก GM และ ผู้เล่นหมายเลข1 ไงครับ"
______________

หลังจากที่ ผม กับคิง ตอบตกลง การบ้านมหาโหดก็ถูกยิบยื่นมาให้
"อันนี้แผ่นยูโด อันนี้คาราเต้ อันนี้ยูจิทสึ แล้วก็ อันนี้เคนโด้ เอ...แผ่นศิลปะป้องกันตัวอันนั้นอยู่ไหนนะ อ่ะนี่การใช้อาวุธพื้นฐาน"
การบ้านจากอัลเล่นเอาพวกเราทึ่งไปเลย มันคือโปรแกรมเรียนศิลปะป้องกันตัวหลากหลายชนิด
"พวกนี้ผมอยากให้เลือกเรียนกันก่อนเล่นเกมส์น่ะครับ เรียนพื้นฐานให้จบก็พอตอนเล่นเกมส์น่าจะช่วยได้เยอะ"
"ส่วนพวกระบบในเกมส์พอเข้าเกมส์จะมีห้องสอนอยู่ ไว้ไปลองเรียนกันตอนนั้นก็ได้ครับ"
"ว่าแต่จะให้ฝึกกันหมดนี่เลยจริงเหรอ" คิงหยิบกล่องโปรแกรมมาซ้อนกัน มันสูงเกือบเลยหัวคิงที่นั่งอยู่เลยทีเดียว
"ก็เงินเดือนเริ่มจ่ายเดือนนี้นี่ครับ" อัลตอบอย่างหน้าตาย

" ส่วนที่เราพึ่งเดินผ่านมาจะเป็นย่านที่อยู่อาศัยครับ คือบ้านพวกนั้นถูกสร้างไว้สำหรับผู้เล่นจะมาเช่า หรือซื้อไว้เป็นบ้านของตัวเองก็ได้ครับ โดยแต่ละเมืองก็จะมีบ้านพวกนี้อยู่ครับ และข้างหน้าก็จะเป็นส่วนย่านการค้าครับ วันนี้เปิดเกมส์วันแรกดูเงียบหน่อยนะครับ เพราะจะมีแต่ร้านของเกมส์ที่เป็น npc ส่วนใหญ่ แต่บางร้านก็อาจเปนคนจริงๆก็มีนะครับ
อย่างร้านนี้......." หลังจากเดินเข้าเมืองมาอัล ก็อธิบายเกมส์ให้กับคนสองคนตลอดทาง ส่วนคน2คนที่เดินตามบ้างฟังบ้างไม่ฟังบ้าง มองซ้ายมองขวา ด้วยสิ่งก้อสร้างสวยงามที่ดึงดูดใจ และตัวละครสาวๆที่สวยระดับนางงามนางแบบกันทุกคน
"คุณชอนคุณคิงครับ นั่นจุดที่คนมุงกันเยอะๆ ที่เป็นร้านหนังสือรูปสัตว์ ที่นั่นจะบอกรายละเอียดของมอนสเตอร์ที่อยู่รอบๆนี้ครับ ก่อนออกไปนอกเมือง แวะไปฟังก่อนก็พอช่วยได้ครับ"
"ส่วนนีเป็นร้ายอาวุธชุดป้่องกัน แต่ยังไม่ต้องซื้อหรอกครับ เพราะตอนไปห้องฝึกก็จะได้มาเหมือนกัน"
"ส่วนนี้ร้านไอเทม เตรียมพวกยารักษาไปด้วยก็ดีครับ เพราะว่า.... มีใครฟังผมไหมครับเนี่ย" การอธิบายต้องหยุดลงเท่านี้ชะงัก เพราะผู้ฟังทั้งสองตอนนี้คนผมยาวไปคุยกับสาวในเกมส์ที่น่ารักสละสลวยคนหนึ่งอยู่ ไม่รู้เริ่มไปคุยเมื่อไหร่แต่ท่าทางสนิทสนมแบบนี้น่าจะซักพักใหญ่ๆแล้วละ ส่วนอีกคนเดินชมนกชมไม้อย่างสบายใจ พูดให้ถูกก็ชมเมืองชมอาคารอย่างสบายใจ ไม่ได้ฟังที่ตนพูดเลย

"เอาน่าไม่เห็นต้องโมโหเลย" ตอนนี้พวกเขาเดินเข้ามาส่วนในของเมืองมากขึ้น ตามคำบอกเล่าของอัล เมืองนี้เป็นเมืองเริ่มต้นชื่อว่า เอ็ดการ์ด เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ศูนย์กลางของอาณาจักร ต้นไม้ของโลกจุดเกิดแรกของทุกคน จะช่วยเป็นตัวบอกทิศเมื่อเรามุ่งหน้ามาศูนย์กลาง

"ใช่ซิครับคุณคิง ก็คุณไม่ใช่คนอธิบายปากเปียกปากแฉะแบบผมนี่ครับ ผมอุตส่าห์หวังดี" อัลยังไมหายโกรธเรื่องที่เขา2คนแอบไปคุยกับสาว
"ฉันว่าเจ้านี่โมโหที่นายไปคุยกะสาสไม่ชวนมันเหลาะ" คิงหันกระซิบกับชอนที่เดินข้างๆ
"ผมไม่ได้โมโหเรื่องนั้นนะครับ ผมเตือนก่อนละกันครับ ในเกมส์นี้ตัดระบบเลเวลทิ้งไป เพราะอยากให้เหมือนจริงมากที่สุด ถ้าเกิดจุดสำคัญ 3 จุด หัว คอ หัวใจ โดนโจมตีแค่ทีเดียวก็โบกมือบายๆได้เลยนะครับ เพราะฉะนั้นตอนอยู่ในเกมส์ต้องระวังตัวหน่อยนะครับ พวกลอบโจมตีก็อันตรายอยู่"

ขณะที่อัลหยุดอธิบาย พวกเขาสามคนก็มาหยุดอยู่หน้าอาคารหลังหนึ่งพอดี อาคารนี้มีบันไดหลักที่เดินขึ้นอาคารใหญ่ขนาดคนเดินขึ้นพร้อมกันได้ทีละเป็นร้อยคน สัญลักษณ์เหนือบานประตูทางเข้าเป็นรูปคนถือโล่สีเงิน อาคารด้านในแทบจะอัดเต็มไปด้วยผู้เล่นใหม่
"นี่เป็นจุดเริ่มต้นครับ ทุกคนที่เข้าเกมส์มาก็จะต้องมาที่นี่ก่อน" อัลช่วยอธิบายคลายข้อสงสัย ก่อนจะเดินนำเข้าตัวอาคาร

ขณะที่เดินตามอัลเข้าไป ชอนก็สำรวจรอบๆ ผู้ดูแลหรือพนักงานที่นี่จะอยู่ในชุดเกราะสีเงินพร้อมรบครบชุด ยกเว้นส่วนหัวที่เปิดโล่งให้เห็นหน้าตาพอแยกแยะแต่สะคนออกบ้าง หน้าที่พี่ชุดเกราะจะแยกออกไปตามจุด โดยรวมเหมือนมาอำนวยความสะดวก และ พร้อมจะกำราบผู้เล่นถ้าเกิดอยากลองของขึ้นมา เพราะบางคนก็ถืออาวุธครบมือ ทางด้านซ้ายเหล่าอัศวินในชุดเกราะกำลังแจกจ่ายอาวุธอยู่ วิธีแจกจ่ายคือการที่ผู้เส่นชี้อาวุธด้านหลัง ทางพนักงานก็จะเสกมาไว้บนโต๊ะแล้วถูกต้องผู้เล่นก็หยิบไป เหตุที่ต้องทำอย่างนี้เพราะผู้เล่นที่มากมายหลายภาษาหลายเชื้อชาติ คำเรียกอะไรก็ไม่เหมือนกัน จะให้พนักงานเรียนหลายภาษาก็ไม่ไหว ภาษากายน่าจะพื้นฐานที่สุดในตอนนี้

"สำหรับผู้เล่นใหม่ที่พึ่งมาถึงให้เดินไปแตะคริสตัลแล้วพูดชื่อที่ได้ทำการลงทะเบียนไว้ มันจะนำท่านไปสู่ห้อง training ค่ะ" สิ้นเสียงประกาศตามสายที่ค่อยๆพูดกันทีละภาษา เริ่มจากอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น (เพื่อความสะดวกผมขอแปลเป็นไทยให้เลยครับ)
อัลเป็นคนสะกิดให้ ชอนและคิงเดินตามเข้าด้านใน พอดีกับสิ้นเสียงประกาศ ผู้เล่นที่ตอนแรกยังทำตัวไม่ถูกก็พร้อมกันเดินเข้าหาแท่งคริสตัล ซึ่งภายในมีแท่งคริสตัลที่ลอยเรียงกันกว่า 10 อัน ซึ่งตอนนี้ถูกผู้เล่นใหม่ล้อมเต็มไปหมด

"เดี๊ยวพอคุณทั้งสองแตะมันก็จะพาคุณเข้าโหมดฝึก ซึ่งจะสอนพื้นฐานภายในเกมส์ พอเสร็จแล้วก็ถูกส่งกลับมาที่นี่ครับถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวไปก่อนนะครับ"
"จะแยกไปแล้วใช่มะ ว่าแต่วิธีการติดต่อกันทำยังไงนะ" ชอนถามเรื่องการติดต่อกันอีกที ตอนที่อัลสอนระหว่างทางเข้าก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง
"อย่างนี้ ตรงนี้ แล้วก็เลือกอันนี้ครับ"
"อ่าฮะ โอเค ไว้เสร็จตรงนี้แล้วจะติดต่อไปนะ หัวหน้า" ชอนพูดพร้อมกับโค้งตัว
"อย่าพูดอย่างนั้นซิครับ โชคดีนะครับ" อัลพูดเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองเดินใกล้จะถึงแท่งคริสตัล
"เดี๊ยวครับคุณชอนคุณคิง" อัลร้องทักในช่วงที่ทั้งสองกำลังจะแตะคริสตัล

"ยินดีต้อนรับสู่ THE WORLD ครับ" ทั้งคู่หันมาส่งยิ้มให้ ก่อนมือของทั้งสองคนสัมผัสแท่งคริสตัลแล้วหายวับไป


วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2555

พื้นที่ชีวิต ตอน : พุกาม (2-9-10)





HUGO (2011)


HUGO (2011)  2 หมัดเด็ดสอยปลายคาง จากหนัง 5 รางวัลออสการ์จากการเข้าชิง 11 สาขา

สำหรับหนังเรื่องนี้ผมโดนหมัดเด็ดเข้าไปตั้งแต่ภาพยนตร์ยังไม่ทันเริ่ม เพื่อนทีชวนผมไปดู เล่าเรื่องที่เขาคุยกับเพื่อนอีกคนให้ฟัง มันเป็นเหมือนแย๊บ ก่อนที่จะปล่อยหมัดชุดออกมาที่พูดถึงโปรเจคที่คิดไว้ แล้วหมัดเด็ดกับคำพูดที่ว่า "ตูคิดแล้วก็อยากทำ ถ้าไม่ทำมันก็เป็นความคิดทิ้งไว้อย่างนั้น"

เหตุที่ต้องเล่าเรื่องข้างต้นมาก่อนเพราะ เหตุการณ์นี้มันเหมือนที่ HUGO ได้ทำกับ คุณลุงร้านขายของเล่น มันทำให้ฟันเฟืองเล็กๆที่เรียกว่าความฝันเริ่มกระดิกอีกครั้ง

HUGO เด็กน้อยที่ต้องเสียพ่อไปจากเหตุอัคคีภัย เขาต้องย้ายมาอาศัยอยู่กับลุงที่สถานีรภไฟ Hugo ต้องอาศัยอยู่ในกำแพงของสภานีเพียงลำพังเปรียบเสมือนคนไม่มีตัวตน HUGO ใช้ชีิวิตโดยการขโมยเล็กขโมยน้อย ค่อยโขโมยอาหารเพื่ออิ้มท้อง ขโมยของเล่นจากร้านขายของเล่นในสถานีเพื่อประทังจิตใจ จิตใจของเขาที่ฝากไว้กับ หุ่นยนต์กลไก ทีพ่อของเขาทำทิ้งไว้กอนตาย จนกระทั้งเขาโดนคุณลุงร้านของเล่นจับได้....... และเรื่องราวมันก็เริ่มขึ้นต่อจากนี้

ความสุดยอดของภาพยนตร์เรื่องนี้
1. องค์ประกอบ ภาพ เสียง การแสดง บท การสนทนา ทั้งหมดของเรื่องอยู่ในระดับที่ดีเลิศ สมกับการเข้าชิง 11 สาขารางวัล
2. สิ้งที่ต้องการถ่ายทอดให้คนดู สาร กำลังใจ แง่คิด ทำออกมาได้ดี ตื่นเต้นน่าติดตามและเข้าถึงได้ง่าย ยังคงความสนุก
3. เรื่องราวเล็กๆแต่ใหญ่มหาศ่าล ฉากของหนังที่วนไประหว่าง บ้านคนขายของเล่น สถานีรถไฟ ห้องในกำแพง สภานีรถไฟ บ้านคนขายของเล่น แต่เรื่องราวมุมเล็กๆแค่ไม่กี่ทีในปารีส มันมีเรื่องราวของมันอยู่มากมาย มีความลึกของตัวละคร อย่างนายด่านที่มีเรื่องราวของความรักกับสาวร้านดอกไม้ คุณลุงคุณป้าเล้ยงหมา แม้เรื่องราวเล็กๆรอบตัวที่เกิดเวียนซ้ำไปมาแต่ความน้ารักของมัน ก็ช่วยทำให้หนังสมบูรณืขึ้น
4. ขอพูดอีกครั้งถึงสิ่งที่หนัง ส่งสาร ให้กับผู้ชม การเปรียบเปรย การสร้างเรื่องราว กำลังใจ แรงใจ การหมดสิ้นกำลังใจ ทำได้อย้างน่าอัศจรรย์
"ผมชอบคิดว่าโลกนี้เป็นเครื่องจักรขนาดใหญ่ มนุษย์เราเป็นเหมือนฟันเฟือง แล้วฟันเฟืองนี้เมื่ออยู่ในเครื่องจักร มันไม่มีตัวไหนที่ไม่สำคัญหรอกนะ" หนึ่งในฉากสำคัญที่ HUGO พูดให้กำลังใจกับ อิซาเบลลา ซึ่งฟันเฟือนที่ HUGO ว่านีบางครั้งมันจะหมุนก็ด้วยฟันเฟือนอีกตัวที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งหนังก็บอกเล่าเรื่องราวของส่วนพวกนี้ได้อย้างดี

สำหรับหนังเรื่องนี้ต้องดู ห้่ามพลาดเด็ดขาด
IMDB 8/10
Rotten Tomatoes 93%
MAKOPOTO 10/10

ปล.ถ้าโลกนี้เป็นเครื่องจักรอย่าง HUGO ว้า ฟันเฟือนที่เรัยกว่ามนุษย์ก็ยังต้องหมุนต่อไป หมุนเพื่อผลักดันสิ้งดีๆต่อๆกัน เหมือนที่เพื่อนและหนังเรื่องนี้ทำให้ฟันเฟือนหนุ้งชิ้นนี้เริ่มหมุน

ขอบคุณเพื่อนและภาพยนตร์เรื่องนี้
และ Facebook ที่ตูต้องพิมถึง 2 รอบ

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

พื้นที่ชีวิต ตอน : ธรรมศาลา (19-8-10)




พื้นที่ชีวิต ตอน : พาราณสี 2 (12-8-10)




พื้นที่ชีวิต ตอน : พาราณสี (5-8-10)




พื้นที่ชีวิต ตอน : ตื่นจากความคิด


พื้นที่ชีวิต ตอน : นิพพาน






วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Facebook ยื่นหนังสือเตรียมจำหน่ายหุ้น IPO



หลังจากเครือข่ายสังคมยักษ์ใหญ่ Facebook ยื่นหนังสือเตรียมจำหน่ายหุ้น IPO เพื่อผันตัวเองเป็นบริษัทมหาชนอย่างเป็นทางการ ข้อมูลมากมายถูกเปิดเผยและสร้างความประหลาดใจให้นักสังเกตการณ์ทั่วโลก ต่อไปนี้คือ 10 เรื่องที่สื่อต่างประเทศลงความเห็นว่าสร้างความเซอร์ไพร์สมากที่สุด
       
       1. จำนวนผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก : เอกสารระบุว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กมีจำนวน 845 ล้านคน เป็นตัวเลขที่มากกว่าสถิติที่บริษัทเคยประกาศไว้เมื่อเดือนกันยายนถึง 45 ล้านคน เฉลี่ยแล้ว เฟซบุ๊กมีแอคทีฟยูสเซอร์มากกว่า 483 ล้านคนต่อวัน ทุกคนมีส่วนช่วยให้ปริมาณคอมเมนต์และการกด Like บนเฟซบุ๊กทะลุ 2.7 พันล้านครั้ง และปริมาณภาพกว่า 250 ล้านรูปที่ถูกอัปโหลดต่อวัน
       
       2. จำนวนความเป็นเพื่อน : โลกนี้ยังไม่มีการทำสำรวจของค่ายใดที่สะท้อนปริมาณเพื่อนหรือความสัมพันธ์ (relationship) ของสมาชิกเฟซบุ๊กอย่างชัดเจน วันนี้เฟซบุ๊กอาสานับรวมให้โดยประกาศว่าปริมาณความเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กนั้นทะลุ 1 แสนล้าน relationship แล้ว ตัวเลขนี้บังเอิญไปซ้ำกับตัวเลขมูลค่าตลาดที่นักวิเคราะห์คาดว่ามูลค่าหุ้นเฟซบุ๊กหลังขาย IPO อาจจะทะลุ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯก็ได้ คิดเล่นๆจะเท่ากับ relationship ละ 1 เหรียญสหรัฐพอดี
       
       3. รายรับของเฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊กประกาศชัดเจนว่ามีรายรับ 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐช่วงปีที่ผ่านมา คิดเป็นกำไร 1 พันล้านเหรียญ เมื่อเฉลี่ยรายรับรวมกับจำนวนสมาชิกเฟซบุ๊กแล้ว จะเท่ากับสมาชิกสร้างเงินให้เฟซบุ้กรายละ 4.62 เหรียญต่อเดือน (ราว 143 บาท)
       
       4. ซีอีโอไข่ในหิน : เอกสารของเฟซบุ๊กทำให้โลกรู้ว่าซีอีโอเฟซบุ๊ก มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก นั้นได้รับการดูแลเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยชนิดไข่ในหิน ทั้งการ์ดหรือทีมงานและระบบรักษาความปลอดภัยที่ต้องติดตั้งในบ้านล้วนเป็นค่าใช้จ่ายของเฟซบุ๊ก โดยถูกรวมไว้เป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆในนามซีอีโอซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 783,529 เหรียญในปี 2011 (ราว 24 ล้านบาท)
       
       5. แผนครองโลก : อย่าคิดว่าข้อนี้เป็นเซอร์ไพร์สไร้สาระ เพราะนี้คือเรื่องจริงที่เฟซบุ๊กกำลังมุ่งครองตลาดโลกอย่างจริงจัง วันนี้รายได้ของเฟซบุ๊กมาจากประเทศอื่นที่ไม่ใช้สหรัฐฯมากขึ้นเรื่อยๆ และการรองรับภาษากว่า 70 ภาษาของเฟซบุ๊กก็ยิ่งทำให้เฟซบุ๊กสามารถครองตลาดเกิดใหม่ทั้งบราซิล อินเดีย และจีนซึ่งมีปริมาณการเติบโตสูงมาก สำหรับประเทศที่เฟซบุ๊กยังไม่สามารถขยายตลาดได้เท่าที่ควรเพราะยังมียักษ์ใหญ่เครือข่ายสังคมท้องถิ่นที่ครองตลาดอยู่ คือรัสเซียและญี่ปุ่น ซึ่งมีแนวโน้มว่าเฟซบุ๊กจะพยายามยกระดับตัวเองให้มากขึ้น
       
       6. ปัญหาอยู่ที่มือถือ : เซอร์ไพร์สสำคัญเรื่องหนึ่งที่พบจากเอกสารของเฟซบุ๊กคือแนวโน้มว่าเฟซบุ๊กกำลังมีปัญหากับตลาดอุปกรณ์มือถือ วันนี้เฟซบุ๊กยังไม่ได้ติดพื้นที่โฆษณาในแอปพลิเคชันสำหรับผู้ใช้เฟซบุ๊กบนอุปกรณ์พกพาทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เรื่องนี้เฟซบุ๊กยอมรับเองว่าเป็นห่วงเรื่องเทรนด์การใช้งานเฟซบุ๊กบนอุปกรณ์พกพาที่อาจจะกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท ซึ่งตอนนี้บริษัทกำลังหาวิธีทำการตลาดบนอุปกรร์พกพาที่เหมาะสมและไม่สร้างความรบกวนแก่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ
       
       7. พฤติกรรมชาวเฟซบุ๊ก : หลังจากยื่นหนังสือเข้าตลาด เรื่องราวของเฟซบุ๊กก็ถูกกล่าวถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะการประกาศผลการสำรวจนานาพฤติกรรมของชาวเฟซบุ๊กที่ตกหล่นไป ล่าสุดพิวรีเซิร์ช (Pew Research Internet Project) พบว่าผู้ชายมีจำนวนการอัปเดทสถานะต่อเดือนเพียง 6 ครั้งเท่านั้น น้อยกว่าผู้หญิงซึ่งอัปเดทสถานะเฉลี่ย 11 ครั้ง แต่ผู้ชายจะลงมือส่งลิงก์ขอเป็นเพื่อนมากกว่า ซึ่งผู้หญิงก็จะได้รับคำขอเป็นเพื่อนมากกว่าชายแบบสมเหตุสมผลกัน
       


       8. ห้ามเถียงซีอีโอ : หากเฟซบุ๊กกลายเป็นบริษัทมหาชน แต่มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์กจะยังเป็นซีอีโอที่ไม่มีใครเถียงได้ เพราะหลังการขาย IPO ซัคเกอร์เบิร์กจะยังคงถือหุ้น 28% หรือราว 1 ใน 3 ของบริษัท แต่จะมีสิทธิ์ออกเสียงหรือลงคะแนนกับกรรมการบริหารเฟซบุ๊กมากถึง 57% เท่ากับเจ้าพ่อเฟซบุ๊กซึ่งเป็นชาวอเมริกันที่ร่ำรวยที่สุดจะเป็นศูนย์กลางอำนาจในการบริหารเฟซบุ๊กต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง จุดนี้มีการประเมินว่า ซัคเกอร์เบิร์กจะมีอำนาจในการบริหารเฟซบุ๊กมากกว่าเจ้าพ่อบิล เกตส์ (Bill Gates) ซึ่งเคยมีสัดส่วนออกเสียงในวันที่ไมโครซอฟท์เป็นบริษัทมหาชนเพียง 49% (ปี 1986) แถมยังมากกว่าผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิลที่มีสัดส่วนออกเสียงในกูเกิลคนละ 16% เท่านั้น (ปี 2004)
       
       9. เฟซบุ๊กคือมรดก : เอกสารมีการระบุถึงกรณีที่ Mark Zuckerberg เสียชีวิต โดยอำนาจการบริหารทุกอย่างจะถูกส่งต่อไปยังบุคคลหรือนิติบุคคลที่ Mark Zuckerberg ระบุให้เป็นทายาททางกฏหมายต่อไป แบบนี้ไม่เรียกว่ามรดกก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว
       
       10. หุ้นอื่นราคาพุ่งกระฉูด : โดยเฉพาะ Zynga บริษัทผู้ผลิตเกมให้เฟซบุ๊กนั้นมูลค่าหุ้นพุ่งกระฉูด 17% เป็นประวัติการณ์ เพราะเฟซบุ๊กเปิดเผยว่า Zynga สามารถสร้างรายได้ให้เฟซบุ๊กเป็นสัดส่วน 12% ของรายได้รวม โดยเป็นรายได้จากการขายสินค้า บริการ และโฆษณาในเกม (in-game purchases and advertising) ถือเป็นตัวเลขที่น่าประหลาดใจสำหรับการดำเนินงานของบริษัทเดียว ไม่เพียง Zynga แต่บริษัทมหาชนเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายสังคมรายอื่นก็ล้วนได้รับแรงดันจากการเปิดเผยข้อมูลของเฟซบุ๊กด้วย ทั้ง Groupon ที่หุ้นพุ่ง 7.4% หรือ LinkedIn ที่เพิ่มขึ้น 6.4% รวมถึง Renren เครือข่ายสังคมสัญชาติจีนที่หุ้นพุ่ง 8.2% เช่นกัน
       
       Company Related Link :
       Facebook