วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Gantz Perfect Answer : Part 2 (2011)


ภาค 2 Perfect Answer

เนื้อเรื่องเริ่มต่อจากภาคที่ 1 หลังจากคาโต้เสียชีวิต คุโรโนะ เคย์ กลายเป็นผู้นำของกลุ่มกันซึ
ออกเก็บคะแนน 100 คะแนน และเป็นจังหวะเดียวกันกับ เรกะ ที่ได้รับคำสั่งลูกบอลสีดำให้ตามเหล่ากันซึรุ่นเก่าที่ได้อิสระแล้วกลับมาใหม่ เพื่อเตรียมทำสงครามกับเหล่ามนุษย์ต่างดาว ที่เริ่มตามแก้แค้นกันซึ

เรกะกับกันซึน้อย 
สำหรับภาคนี้เป็นการเอาเหตุการณืสำคัญต่างๆ ในหนังสือต่อจากตอนที่แล้วจนถึงตอนจบ มาผสมปนเปกันและหาข้อสรุปใหม่ให้กับเรื่อง
1. ลูกบอลสีดำและการตามล่าสมาชิกกลับมาร่วมทีมกันซึ
- การ์ตูน อิซุมิ(หัวหน้าทีมกันซึคนก่อน) ได้รับลูกบอลสีดำหลังจากได้อิสระ และทำการฆาตกรรมหมู่คนเก่งๆเพื่อกลับมายังห้องกันซึอีกครั้ง (เรกะก็โดนอิซุมิฆ่า)
- ภาพยนตร์ เรกะเป็นอิซุมิในการ์ตูน เคยได้อิสระมาแล้ว และเริ่มตามล่าคนได้อิสระเผื่อให้กลับมาที่ห้องกันซึ 
+ ต่างกันที่ อิซุมิต้องการกลับมาห้องด้วยแรงผลักดันบางอย่าง แต่ในภาพยนตร์เรกะไม่ต้องการ
นักสืบที่ตามเรื่องกันซึ
 2. นักสืบที่ตามเรื่องของกันซึ
- ในการ์ตูน เป็นคนที่ตามเรื่องของกันซึมานานจนมาเจอคุโรโนะ ในตอนที่ได้อิสระแล้ว ทำให้คุโรโนะจำข้อมูลอะไรไม่ได้ จนตามสืบไปเจอโฮสต์ซามูไร และบอกที่อยู่ของอิซุมิไป เป็นเหตุให้อิซุมิตาย (เหตุการณ์อิซุมิตาย เป็นการสะท้อนสังคมอย่างหนึ่งในเรื่องช่วยเหลือกัน) และเป็นตัวละครสำคัญในช่วงท้ายที่ตามสืบไปพบต้นตอของโรงงานกันซึที่เยอรมัน
- ในภาพยนตร์ ตามสืบเรื่องราวของกันซึ และพบเจอล่องลอยของผู้ที่หายสาบสูญและกลับมาใหม่ โดยในช่วงแรกช่วยเหลือกลุ่มโฮสต์ซามูไร(เอเลี่ยน) ในการตามสืบเรื่อง จนตอนท้ายตัวเองต้องมาเสียชีวิต


3. คุณลุง
- ในการ์ตูน โผล่มาตอน อิซึมิ ไล่ฆ่า เป็นตัวละครสำคัญอีกตัวที่ทำให้ที่เป็นแรงผลักดัน และช่วยเหลือคุโรโนะ จนถึงช่วงท้ายของเรื่อง
- ในภาพยนตร์ โผล่มาแต่ตอนแรกๆ แต่ไม่ได้มีความสำคัญกับตัวละครอื่นมากมาย จนตอนท้ายที่คุโรโนะไว้ใจและให้พาทาเอะหนี
นิชิคุง เด็กที่รู้เรื่องกันซึมากที่สุด
4. นิชิคุง เด็กที่น่าจะรู้เรื่องกันซึมากที่สุดคนหนึ่งของเรื่อง
- การ์ตูน โผล่มาตั้งแต่ตอนแรก ในตอนท้าย คุโรโนะชุบชีวิตขึ้นมา(ใช้ 100 คะแนนของคินนิคุแมน) เพื่อถามถึงรายละเอียดของกันซึ เพราะสภาพวแดล้อมเปลี่ยนไป คนสามารถมองเห็นได้ ซึ่งนิชิคุงก็เปิดเผยถึงวันสุดโลกที่กันซึทำนายไว้ (ตอนล่าสุดยังมีชีวิตอยู่) ซึ่งในช่วงท้ายของเรื่องก็เฉลยถึงที่มาของนิสัยเห็นแก่ตัวของนิชิ ที่เป็นจากการป้องกันการถูกโจตีของเพื่อนร่วมห้องและคนรอบข้าง
- ภาพยนตร์ โผลมาแต่ต้นเรื่องเช่นกัน และถอดแบบออกมาได้น่ารังเกียจเหมือนกัน แต่ความสำคัญในช่วงเฉลยตอนท้ายไม่มีบทบาทเลย เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เนื้อเรื่องไปต่อได้

โฮสต์ซามูไร & แก๊ง
 5. ไอ้บ้าโฮสต์ซามูไร ตัวป่วนในฉบับการ์ตูน
- การ์ตูน ไอ้บ้าโฮสต์ซามูไรโผล่มาป่วนตั้งแต่ตอนสู้กับไดโนเสาร์หลังจากทุกคนถูกส่งตัวกลับ +กับเป็นคนที่เชิญยักษ์สายฟ้าเข้าสู่การต่อสู้จนทำให้กันซึเปลี่ยนแปลงไป แถมยังเป็นคนที่ฆ่าอิซุมิ อากิระน้องชายคุโรโนะ (ที่กลายเป็นพวกเดียวกัน น่าจะเป็นแวมไพร์) และฆ่าคุโรโนะ ตอนที่ได้อิสระแล้ว แต่ตัวเองก็มากลายเป็นส่วนหนึ่งของกันซึ และช่วยปราบบอส 100 คะแนนที่โฮซาก้า
- ภาพยนตร์ เป็นมินิบอสของหนัง จ้องจะทำลายกันซึและแก้แค้นให้พวกพ้อง แต่โดนคุโรโนะฆ่าตายบนเหตุการณ์บนรถไฟ (ฉากที่มันส์ที่สุดของภาคนี้)

ฉากทาเอะถูกฆ่าตาย(การ์ตูน)
6. การถูกตามล่าของทาเอะ
- การ์ตูน ทาเอะถูกตามล่าหลังจากฆ่าอัศวินม้าดำ เพราะคุโรโนะเข้าไปช่วยเหลือ และทาเอะเห็นเหตุการณ์ลาง กันซึรู้สึกมีภัยจึงออกคำสั่งฆ่าทาเอะเป็นเหตุการณ์แบ่งออกเป็น 2 ฝั่งหันปืนเข้าสู้กัน
- ภาพยนตร์ ทาเอะถูกหมายหัวตั้งแต่เรกะได้ลูกบอลลูกเล็กเป็นภารกิจสุดท้าย เป็นเหตุการณ์นองเลือดบนรถไฟ แต่ภารกิจไม่สำเร็จ เรกะถูกคาโต้(เอเลี่ยน)ฆ่า กันซึจึงเริ่มแผนการใหม่ให้ไปฆ่าทาเอะ (โดยใช้ฉากเป็นตอนกันซึในการ์ตูนไปสู้ที่โอซาก้า)
ซึ่งในภาพยนตร์ไม่มีเหตุผลอะไรที่กันซึจะต้องให้ไปฆ่าทาเอะเลย

ลูกบอลกันซึตอนท้ายยังคงอยู่
7. ตอนจบของเรื่อง
- การ์ตูน ปริศนาที่มาของกันซึถูกเฉลยไปตอนท้ายเรื่องว่าผลิตขึ้นมาจากน้ำมือมนุษย์และมีลูกบอลอย่างนี้อยู่ทั่วโลก โดยโรงงานผลิตอยู่ที่เยอรมัน ปัจจุบันยังมีปริศนาที่รอการเฉลยอยู่ เพราะยังไม่จบ และน่าจะอีกนานกว่าจะจบ
- ภาพยนตร์ มีประเด็นการล้างแค้นขึ้นมา สุดท้ายเลือดก็ต้องล้างด้วยเลือดแต่ประเด็นนี้ก็ตกไป เพราะเนื้อหาไม่ได้ให้เหตุผลที่กันซึเรียกทุกคนมา การคงอยู่ของมันมีเพื่ออะไร และเรียกคนมาปราบเอเลี่ยนเพราะอะไร? 

IMDB : 6.4/10
Rotten Tomatoes : 43%
Makopoto : 5/10 ไม่ถึงขั้นเลวร้าย เพียงแต่ตอนจบไม่ได้เฉลยอะไรและจบแบบงงๆง่ายๆเมหือนหมดมุขไปหน่อย (การ์ตูนดีกว่ามากครับ ไม่ใช่ Animation ด้วยนะอันนั้นก็หลุดโลกไป)

วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Gantz : Part 1 (2010)




ภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ทำจากหนังสือการ์ตูนที่ดังมากๆชื่อเดี่ยวกัน Gantz (เมืองไทยเคยโดนแบนไปพักใหญ่ๆปัจจุบันออกมาถึงเล่ม 24 ถ้าหาในเน็ตดีๆอาจมีให้อ่านถึงเล่ม 33 แบบแปลไทยครบ) สำหรับตัวหนังสือการ์ตูนได้รับความนิยมทั้งในญี่ปุ่น และ บ้านเรา (น่าจะทั่วโลกแต่ไม่แน่ใจเท่าไหร่) เพราะเป็นการตูนที่แหวกแนวเป็นทั้งการ์ตูน Sci-fi, Fantasy, รักโรแมนติก, ลึกลับ,โหด,หื่น,ภาพสยอง,มุมมืดของมนุษย์ มาครบทุกรูปแบบสำหรับผู้ใหญ่บริโภคเอามันส์

สำหรับตัวการ์ตูนผมให้ 10/10 นอกจากเนื้อเรื่องไม่เหมือนในตลาดการ์ตูนยังเขียนได้ดีภาพสวยตื่นเต้นและมันส์โครตๆทั้งการออกสู้กับเอเลี่ยน มุมมองชีวิต หรือปริศนาของเรื่องก็ตาม

กันซึ (Gantz) ชื่อลูกบอลดำลูกนี้ที่มีปริศนาเยอะเหลือเกิน
สำหรับบทภาพยนตร์ : เนื้อเรื่องเริ่มต้นเหมือนในการ์ตูนคือ คุโรโนะ เคย์ ได้มาเจอเพื่อนเก่าสมัยประถม ซาโต้ ทั้งคู่ลงไปช่วยคนที่ตกรางรถไฟ ก่อนที่จะพลาดถ้าเสียทีเสียชีวิต และโผล่มาหน้าลูกบอลสีดำ ที่ชื่อว่า กันซึ พร้อมคนอื่นๆที่เสียเวลาไล่เลี่ยกัน โดยกันซึจะทำการเรียกคนที่ชีวิตช่วงเวลาใกล้มาเพื่อให้ทำภารกิจสู้กับมนุษย์ต่างดาว และเมื่อสะสมคะแนนได้ 100 คะแนนจะสามารถทำให้ตัวเองเป็นอิสระ หรือจะชุบชีวิตใครก็ได้ 1 คน

เนื้อเรื่องของภาคนี้ไม่ได้แต่งต่างกับตัวการ์ตูนมากนัก ใช้เค้าโครงดำเนินเรื่องเดียวกัน ต่างที่การลงรายละเอียดของเรื่อง ซึ่งทางหนังสือการ์ตูนทำตรงนี้ได้ดีมากและเคลียร์ทำให้เห็นการพัฒนาการของตัวละคร เบื้องหลังความคิดหลายๆอย่าง(แต่ก็เข้าใจว่าหนังเวลาไม่พอ) เนื้อเรื่องภาคนี้เล่าถึงตอนสู่กับเอเลี่ยนกวนอูพันมือ (ตอนที่ 90) ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้พระเอกของเราเก่งกาจและเติบโตขึ้น

คุโรโนะ เคย์(ซ้าย) และ ซาโต้(ขวา)
เรื่องภาพของหนังทำออกมาได้ดีทั้งหมดดูเนียนไม่มีหลุด ฉากบู๊ก็ดูสนุก ติ้นเต่น ฉากสยองชวนแหวะก็ลดจากบทการ์ตูนไปเยอะเหลือเฉพาะตอนสู้กับเอเลี่ยนตัวแรกกับตัวสาม ส่วนฉากเซอร์วิสอย่างในการ์ตูนก็มีให้เห็นแค่ตอน มิชิโมโตะ ปรากฏตัวกับสัดส่วนหาค้นหาในห้องของคุโรโนะเท่านั้น
**ขวัญใจผม เรกะ ยังไม่ออกมาในภาคนี้
*** ทาเอะเป็นตัวละครที่ออกมาตั้งแต่เนิ่นแต่ยังไม่มีบทโดดเด่นอะไรในภาคนี้ ซึ่งในตัวภาพยนตร์น่ารักกว่าในหนังสือการ์ตูนเยอะเลย
ฉากเลือดพุ่งกับเอเลี่ยนต้นหอม

ทาเอะจัง น่าจะเป็นตัวละครสำคัญภาค 2

สรุป ตัวหนังทำออกมาได้ดี ถ้าใครไม่เคยอ่านการ์ตูนมาก่อนคงชอบ (ใครที่เกลียดหนังแหวะๆยิงปืนตูมตาม ก็ทำใจก่อนดูนิดนึงครับ) ส่วนใครที่อ่านการ์ตูนแล้วมาดูก็อาจจะผิดหวังนิดหน่อยเพราะการ์ตูนเขียนออกมาได้ยอดเยี่ยมจริงๆ

IMDB : 6.5/10
Rotten Tomatoes : 57%
Makopoto : 7/10


วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Mission Impossible 1 [1996]



Mission Impossible 1
สำหรับภารกิจแรก MI คือ การโจรกรรมรายชื่อข้อมูลสายลับ CIA อีธาน ฮันต์ พระเอกสายลับของเรื่องและเพื่อนร่วมทีมนำโดย จิม(Jon Voight) ทำงานเป็นสายลับให้กับ CIA ในการทำภารกิจต่างๆ ภารกิจครั้งนี้ที่เขาได้รับคือการหาหลักฐานและรวบตัวของ ผู้ซื้อและขายข้อมูลรายชื่อสายลับ แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเพื่อนร่วมทีมของเขาเสียชีวิตทั้งหมด จากการที่ CIA มีหนอนบ่อนไส้ อีธาน ฮันต์จึงออกสืบเพื่อทวงแค้นและหาความจริง...

ฉากระเบิดหมากฝรั่ง และท่าวิ่งสุดหล่อในตำนาน

เรื่องราวของ MI-1 สำหรับผมมันเหมือนต้นแบบของสายลับในวัยเด็ก อาวุธล้ำสมัย หน้ากากเปลี่ยนหน้า คอมพิวเตอร์ แฮคเกอร์ ปืน มันถูกทำให้ติดตาฝังใจไปว่าสายลับต้องออกมาในรูปแบบนี้ (โดยเฉพาะหน้ากากปลอมตัว) 

สำหรับเนื้อเรื่องมันเหมือนเป็นการกลับมาดูหนังเก่าที่จำได้บ้างไม่ได้บ้างดูแล้วหวนนึกถึงช่วงเด็กๆทำให้ไม่ตื่นเต้นกับจุดหักมุม แผนซ้อนแผน ของเรื่องมากมาย แต่ก็ยังสนุกกับเรื่องราวของหนังได้อยู่



ฉากในตำนานแห่งศตวรรษที่ 20

อีธาน : แทบจะเป็นสุดยอดพระเอกที่ได้ทั้งบุ๋นและบู๊ ภาคนี้ไม่มีด้านมืด ข้อเสียของอีธานให้เห็นเลย เป็นการโชว์เทพล้วนๆ 

สำหรับฉากห้องรักษาความปลอดภัย CIA ดีกี่ครั้งก็ยังสนุก ลุ้น และ เท่โครตๆ ทุกที ขอชมคนคิดระบบป้องกันในห้อง ที่ทำให้เกิดฉากโจรกรรมเท่ๆอย่างนี้ และขอชมอีกครั้งกับฉากก่อนหนีที่ปล่อยมีดตกลงบนโต๊ะ ฉากนี้หล่อมากกกกก 
อีธาน ภาค 1
อีธาน ภาค 4

Mission Impossible 1 เข้าฉายในปี 1996 Tom Cruise ในเรื่องอายุตอนนั้น 34 ปี (1996-1962) กับภาคล่าสุด Mission Impossible : Ghost Protocol อายุ 49 ปี เวลาต่างกัน 15 ปี ใบหน้าของอีธานไม่เปลี่ยนไปเลย
ควรถูกจับตรวจกรรมพันธ์ คอลลาเจน ด่วน!!

IMDB : 6.9/10
Rottentomatoes : 61%
Makopoto : ถ้ายังไม่เคยดูลองหามาดูครับ สำหรับคนที่เคยดูแล้วสมัยเด็กหยิบมาดูก็เป็นการย้อนวัยดีนะครับ

วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Midnight in Paris



Midnight in Paris

หนังที่ Paisit Sirilertsakul แนะนำ และชวนไปดู

เนื้อเรื่อง : เรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่งที่กำลังจะแต่งงานกันเร็วๆนี้ บินมาปารีสพร้อมกับครอบครัวของฝ่ายหญิง เนื่องด้วยเหตุผลทางธุรกิจ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าการมาปารีสจะเปลี่ยนชีวิตของคนทั้งคู่ไป จากชายหนุ่ม ที่เป็นนักเขียน ซึ่งรักในศิลปะ และจำต้องใช้เวลาส่วนตัวและความเงียบในการแต่งผลงาน กับ หญิงสาว ที่ดูจะรักสังคมรักปาร์ตี้ซะเหลือเกิน แล้วแถมจะไม่ค่อยชอบศิลปะเท่าไหร่นัก แถมยังมีตัวแปรที่เป็นหญิงสาวอีกคนที่รักในงานศิลปะ และดูจะเข้ากันกับมากกว่า และเพื่อนใหม่แปลกหน้าที่มาพร้อมกับมิตรภาพที่พยายามจะผลักดันให้งานเขียนของเขาเป็นที่รู้จัก และคอยให้กำลังใจกับงานเขียนที่ดูจะไม่เป็นตามที่พูดเท่าไหร่ เขาต้องตัดสินใจทำในหลายๆสิ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล แต่สิ่งหนึ่งที่มันจะไม่เปลี่ยนแน่ๆคือ เขารักปารีส เมืองของจิตรกร และนักเขียนช่างฝัน




ขอพูดถึงหนังเรื่องนี้ 
- ชอบมากกับภาพของหนัง และเสียงเพลงประกอบ บทเพลงที่ใช้ในเรื่อง ช่วยขับบรรยากาศให้โรแมนติก สวยงาม หลงใหล ปนเสน่ห์ไปกับหนังไปกับปารีส (แม้คนที่ไปส่วนใหญ่จะบ่นกันเสียงเดียวว่ามันสกปรก)
- ฉากเปิดตัวหนัง ที่เป็นฉากมุมปารีสทีละมุม ทีละมุม จากไก่โห่ยันพระอาทิตย์ลับตา น่าหลงใหล และ ชวนให้ไปเหยียบซักที
- ตัวหนังเป็นหนังที่มีบทสนทนาเยอะมากเรื่องหนึ่ง ซึ่งต้องชมคนเขียนบทที่ทำประโยคสนทนาออกมาได้ดู นั่งฟังนั่งอ่านแล้วไม่เบื่อ
- ประเด็นที่สอดแทรกมาของหนังที่ผมว่าทุกคนคงต้องเคยคิดถึงมัน แต่สิ่งไหนเล่าจะดีเท่ากับปัจจุบัน การหลงใหลอดีตไม่ใช่เป็นสิ่งที่ผิดแต่การเลือกที่จะจมอยู่กับอดีตแล้วไม่สนปัจจุบันนั้นอาจผิดก็ได้
- การเดินเล่นยามราตรีใน Paris ถ้าเรื่องราวที่พระเอกไปเจอไม่ใช่..... สิ่งนั้นก็อาจเป็นการสะท้อนถึงเรื่องของจินตนาการที่เดินออกไปยามราตรี ผ่านสถาปัตที่สวยงามโบราณ และน่าหลงใหล
-  เพิ่มเติม อีกประเด็นของหนังที่แฝงมา จิล คิดว่าการเดินตากฝนกลางปารีสมันโรแมนติกดี และสวยงามยิ่งกว่าไหนๆ มันอาจสะท้อนถึงความชอบ ความชอบของแต่ละคน สุดท้ายของหนัง ของเรา ของทุกคน "ใครละจะเดินกลางฝนไปกับเรา"

* ถ้าใครอยากหาหนังที่ไม่ตึงตัง โครมคาม อยากปล่อยจิตใจชมหนังสบายๆ ภาพสวย เพลงเพราะ ลองไปเดินเล่นยามราตรีที่ปารีสดูครับ 
** หนังเข้า SF Central World ทีเดียวนะครับ

IMDB : 7.8/10
Rotten Tomatoes : 93%
Makopto : 9/10 

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Sin City เมืองคนบาป (2005)



SIN CITY เมืองคนบาป  ภาพยนตร์ฟิล์มนัวร์ที่มีเสน่ห์เหลือหลาย

ฉากเปิดตัวภาพยนตร์สุดมีเสน่ห์
SINCITY : เป็นภาพยนตร์ที่สรัางจากการ์ตูนชื่อเดียวกันผลงานของ Frank Miller ซึ่งตัวหนังก็ได้ผู้สร้างเมืองนี้ขึ้นมาช่วยกำกับร่วมกัน โดยภาพในภาพยนตร์นั้นถอดฉากมุมภาพมาจากการ์ตูนทีละช๊อตทีละช๊อต โดยเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ทำ CG ได้เนียนมาก โดยเนื่้อเรื่องเล่าถึงเรื่องราวอาชญกรรมที่เกี่ยวกับคน 3 คน 
คนแรก hartigan (Bruce Willis)  ตำรวจใกล้เกษียณที่ต่อสู้กับความไม่ถูกต้องของสังคม
คนที่สอง Marv (Mickey Rourke) ชายหนุ่มหน้าตาน่ากลัวที่ต้อสู้เพื่อ โกลดี้ ผู้หญิงที่ตนรัก
คนที่สาม Dwight (Clive Owen) ผู้ชายที่ต้อสู้เพื่อปกป้องผู้หญิง และ คนอื่น

โดยเนื้อเรื่องจะเป็นการเล่าสลับฉากแต่ทั้งสามเรื่องนั้นจะมีความเกี่ยวข้องกันอยู่ 
เริ่มต้นจากราวของ Hartigan นายตำรวจใกล้เกษียณที่ตาม โร้ดจูเนียร์ ผู้ร้ายฆ่าขมขื่นเด็กสาว ไปถึงโกดังท่าเรือเพื่อช่วยเหลือ แนนซี่ เด็กสาวที่ถูกจับตัวมา จนใกล้จะฆ่าโร้ดจูเนียร์ (ยิงเจ้าโลกทิ้งไปแล้ว) ก็ถูกคู่หูของตัวเองหักหลัง จบลงด้วยตัวเองตายและเด็กรอดชีวิต
(หนังตัดสลับพาไปดูเรื่องราวของ Marv และ Dwight ก่อนจะกลับมาเล่าเรื่องของ Hartigan อีกครั้ง)

โร้ดจูเนียร์ในสภาพน้องอึ
(เปรียบเทียบกับมุมการ์ตูน)
Hartigan ที่คิดว่าตอนแรกตายแล้วนั้นจริงๆยังไม่ตาย ถูกช่วยชีวิตไว้โดย โร้ด(คนพ่อ) ที่ต้องการป้ายความผิดของลูกชายตัวเองทั้งหมดไปให้กับเขา ซึ่่งแม้ Hartigan จะรอดชีวิตมาได้แต่ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ในคุกอีก 8 ปี มีเพียงจดหมายจากหนูน้อยแนนนี่ที่เขาได้ช่วยชีวิตเป็นกำลังใจ แต่ก็มีเหตุให้เขาต้องออกจากคุกพร้อมยอมสารภาพรับผิดทั้งหมด เพื่อออกมาตามหาหนูน้อยแนนนี่ หลังจากได้จดหมายที่ได้รับทุกสัปดาห์กลายเป็น นิ้วมือของหญิงสาว

หนังหักมุมอีกครั้ง กลายเป็น โร้ดจูเนียร์วางแผนปล่อย Hartigan ออกมาเพื่อให้ตามหาแนนนี่ และ ตนจะได้แก้แค้น Hartigan ตามหาแนนซี่จนเจออีกครั้ง และครั้งนี้ก็เป็นเหมือนครั้งแรก เสียท่าให้กับโร้ดจูเนียร์จนต้องตามไปช่วยแนนซี่อีกครั้ง และค่่าโร้ดจูเนียร์สำคัญ ก่อนที่ Hartigan จะตัดสินใจครั้งสำคัญเพื่อช่วยชีวิตแนนนี่ตลอดไป โดยการที่ ตาแก่หนึ่งคนตาย เด็กสาวหนึ่งคนรอด

หลังจากจบยุคของ Hartigan
Marv ชายหนุ่มหน้าตาอัปลักษณ์ที่หลงรัก โกลดี้ โสเภณีเกรดเอ โกลดี้ตายในอ้อมอกของเขาขณะนอนหลับหลังร่วมกิจกัน เป็นเหตุให้ชายหนุ่มต้องสืบหาความจริงของฆาตกร และสืบไปถึงตัวของ โร้ดคนพ่อ ที่หลังเสียลูกชายไปก็เลิกฝันที่จะเป็น ประธานาธิบดี มาเป็น บาทหลวง ผู้ทรงอิทธิพลแทน โดยโร้ดและเควิน ลูกเลี้ยงของบาทหลวงโร้ดนิยมจับโสเภณีมาขังและกินเนื้อมนุษย์ ที่เมื่อ Marv สืบไปถึงก็โดนใส่ร้ายข้อหา จนเอาตัวแทยไม่รอด โดย Marv จะมีผับประจำซึ่งเขาจะไปนั่งกินเสมอคือ ผับที่แนนนี่ทำงานอยู่ ซึ่งแนนซี่ก็จะคอยช่วยเหลือเขาเป็นประจำ อาจด้วยที่ Marv มีจิตใจที่ดีเหมือนกับ Hartigan
หลังจากภาคยุคของ Marv (ตระกูลโร้ดตายจนหมด)

เมือง โฮลด์ดินแดนโสเภณี ก็มีการทำข้อตกลงกับทางตำรวจเพื่อปกครองตัวเอง โดยให้สิทธิพิเศษกับตำรวจถ้าไม่เข้ามายุ่งกับเมือง Dwight กับแฟนใหม่สาวบาร์ ที่แฟนเก่าของเธอมักจะเมานำเปลและมาตบตีเธอเป็นประจำ Dwight ที่ตอนนั้นอยู่ในห้องก็ทำการสั่งสอนแฟนเก่าเจ้าปัญหาของเธอไป และคิดจะตามไปจัดการให้จบเพราะกลัวแฟนเก่าของเธอจะไปทำร้ายผู้หญิงคนอื่นต่อ Dwight จึงตามเข้าไปจนถึงเมืองโฮลด์ทาวน์ และช่วยกันจัดการกับเหล่าโสเภณีที่ปกป้องเมืองอยู่ จนมารู้ทีหลังว่า แฟนเก่าคนนี้เป็นตำรวจ เขาจึงวางแผนจะนำศพไปทิ้งที่บ่อน้ำมันตำรวจจะได้หาศพไม่เจอ แต่แผนก็ต้องแตกเพราะ เบ็คกี้ หญิงสาวโสเภณีที่อยู่ในเหตุการณ์โทรแจ้งตำรวจ Dwight จึงต้องเจอเรื่องวุ่นๆและร่วมมือกับ Miho (Devon Aoki) จัดการกับตำรวจที่รู้เรื่องทั้งหมดในเมือง แต่จนแล้วจนรอด เบ็คกี้ก็สามารถหนีไปได้ 
ฉากเริ่มต้นเรื่อง นักฆ่าหนุ่มบนตึกกับสาวชุดแดง ที่ปลอมตัวเป็นหมอและดักเจอเบ็คกี้ในต้นท้ายของเรื่องในลิฟต์โรงพยาบาล

* เนื้อเรื่องของหนัง ฆาตกรรม เลือดสาด กำปั้น โสเภณี ปืน กับบรรยากาศแบบฟิล์มนัวร์ทำได้ลงตัวอย่างยิ่ง ซึ่งการทำแบบนี้ทำให้ฉากโหดก็ดูไม่โหดจนเกินไป
** บรรยากาศนัวร์ และการเล่นเฉดสีของหนังทำได้กลมหลืนและขับเสน่ห์ของหนังเป็นอย่างมาก
(ฉากเสื้อแดงเปิดตัว ฉากเตียงแดง รองเท้าแดง สวยงามจนตรึงตา และไอ้ตัวเหลืองน่าเกลียดได้ใจ)
*** การเล่าเรื่องที่เป็นเสียงนึกคิดในหัว ผมว่านี้คือเสนห์อีกอย่างหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ (หลายคนอาจจะเบื่อ แต่ดูไปไม่นานก็น่าจะชิน เหมือนอ่านการ์ตูน)
**** เผื่อคนที่สงสัย ฟิล์มนัวร์ (Film Noir) ชื่อเรียกประเภทของภาพยนตร์ประเภทหนึ่ง โดยที่คำว่า Noir เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า "ดำ" หากจะแปลกันตรง ๆ ตัว ฟิล์มนัวร์ จึงแปลว่า "ฟิล์มดำ" หรือ "ภาพยนตร์ดำ" หรือ "ภาพยนตร์มืด"

IMDB : 8.3/10
Rotten Tomatoes : 78%
Makopoto : 10/10 (ชอบหนังดาร์กๆ เนื้อเรื่อง และ ฉากสี)

ของแถม
Jessica Alba ในบท Nancy
Megan Fox ไม่เกี่ยวกับหนังแต่ Sexy เหมือนกัน



วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Tekken Blood Vengeance [Animation]








Tekken Blood Vengeance ภาพยนตร์จากเกมต่อสู้ศึกชิงเจ้าหมัดเหล็ก Tekken ที่ครั้งนี้ถูกสร้างขึ้นแบบ CG Animation ไม่ใช่ภาคแบบคนจริงแสดงอีกแล้ว หลังจากผู้สร้าง Tekken หัวเสียสุดๆที่ Hollywood นำไปทำไม่ได้เรื่อง สุดท้ายเลยตัดสินใจสร้างเองในแบบ CG Animation แทน




เนื้อเรื่อง : ยังคงเป็นการต่อสู้ของตระกูล Kazama ที่ ปู่(ฮาเฮจิ) พ่อ(คัทซึยะ) ลูก(จิน) โดยเนื่อเรื่องภาคนี้ เกี่ยวกับ Kamiya Shin ผู้รอดชีวิตจากการทดสอบเซลล์ M ซึ่งทำให้ตนเป็นอมตะ จึงเป็นที่ต้องการตัวของทั้ง 3 ปู่พ่อลูก Ling Xiaoyu (ผู้หญิงกับแพนด้า) จึงถูก Nina ส่งเข้าไปเป็นสายลับเพื่อเข้าใกล้ตัว Shin .....

(ตัวอย่างภาพสวยจาก Animation ครับ)

พูดคุยถึงหนังเรื่องนี้

1. ถ้าพูดถึง Tekken คนแสดง กับ Tekken Animation ความสนุกให้กับทาง Animation ถ้าความมันส์จากฉากต่อสู้ให้กับทาง คนแสดง ในตัว Animation มีเนื้อเรื่องที่ดี แต่ในฉาก ต่อสู้ ยังดึงความเป็น Tekken ออกมาไม่ค่อยได้



2. Animation ไม่ได้ทำให้เรารู้เรื่องของ Tekken มากขึ้น (หรือเพราะผมไม่เคยเล่นเกมส์แบบเนื้อเรื่องด้วย เวลาเล่นก็ VS กับเพื่อนตลอด) รู้เพิ่มเติมมาเพียง ปู่พ่อลูก แบ่งฝ่ายเพื่ออะไร ตัวละครคนอื่นไปไหน แปลงเป็นปีศาจได้ยังไง อันนี้ไม่เข้าใจ = ="

3. ตัวละครที่อยากเห็นโชว์ฝีมือและคิดว่าน่าจะได้เห็น คือ อาจารย์ ลี แต่ไฉนอาจารย์ได้แต่โชว์นิ้วโป้งเท่ๆเท่านั้นเอง


IMDB : 5.8/10
Rotten Tometoes : 54%
Makopoto : 5/10  ดูไม่ดูก็ได้จ้าาาา






วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Bridesmaids เรื่องวุ่นๆเมื่อเพื่อนสาวจะแต่งงาน

Bridesmaids เรื่องวุ่นๆเมื่อเพื่อนสาวจะแต่งงาน


เรื่องย่อ : Annie Walker ถูกรับเชิญให้เป็นเพื่อนเจ้าสาวในงานแต่งของเพื่อนสนิท Lillian ซึ่งในกลุ่มเพื่อนเจ้าสาวที่ Lillian แนะนำให้เธอรู้จักมี Helen เพื่อนสนิทสุดโลิศหรูคนใหม่ของ Lillian ที่คอยแข่งขันกับเธออยู่เสมอ เรื่องราววุ่นๆของเพื่อนเจ้าสาวจึงเริ่มขึ้น






พูดถึงหนังเรื่องนี้

1. สำหรับเรื่อง Bridesmaids ถูกเรียกว่า Hangover ฉบับผู้หญิงแสดง พร้อมทำเงินถล่มทลายในอเมริกา 170 ล้านดอลล่าร์ คำเปรยข้างบนทำให้หนังเรื่องนี้น่าดูอย่างยิ่ง


2. หนังเล่าประเด็นเรื่องของ Annie ที่ชีวิตช่วงนั้นเจอแต่เรื่องร้ายๆ อาจเพราะดวงซวย แต่จริงๆ Annie แน่จะเป็นนิสัยของคนไม่แก้ปัญหา (เอาไว้ก่อน) จนทำให้ปัญหาหลายๆเรื่องกองทับภมกันรอวันระเบิด เมื่อมันเยอะมากขึ้นเธอจึงรับไม่ไหว จนถึงวันที่เธอมาตามแก้แล้วรู้ว่าเรื่องราวต่างๆไม่ได้เลวร้ายเสมอไป

3. Helan ตัวละครที่ดูดีสมบูรณ์ทุกอย่าง ดูจะเป็นตัวร้ายคอยปันหัวนางเอก แต่จริงๆเธอก็มีปมในใจที่ทำให้เธอเป็นอย่างนั้น สิ่งที่เราดูว่าจะเพอร์เฟ็คมันไม่มีจริง


4. เนื้อเรื่อง และ การดำเนินเรื่อง ดูแล้วอาจจะเบื่อๆ ฮาๆ อาจเป็นมุขของฝรั่งและสาวๆที่ทำให้ ผมไม่เก็ทและไม่ขำ (นั่งดูกับสาวสาวก็ไม่ขำนะ แทบเบื่อกว่าผมอีก) ถ้าจพดูเอาฮา ไม่เวิร์คจ้าาา

5. Wilson Phillips - Hold On เพลงตอนจบของเรื่อง เล่าเนื้อเรื่องประเด็นสำคัญ แนวคิดทั้งหมดของเรื่องนี้หมดแล้ว ฟังเพลงก่อนไปอาจจะทำให้อินมากขึ้น รึเปล่า


IMDB : 7/10
Rotten Tometoes : 90%
Makopoto : 6/10 เฉยๆดูไม่ดูก็ได้

วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Gran Torino อย่ามาเก๋าเกินหน้าปู่

Gran Torino อย่ามาเก๋าเกินหน้าปู่



เนื้อเรื่องย่อ : Walt Kowalski คุณปู่นายทหารเหรียญกล้าหาญ ทีไม่สนิทกับลูกชายแท้ๆของตัวเองเลย และมักมีปัญหากับเรื่องต่างๆอยู่เสมอ หลังคุณยายคู่ชีวิตเสียไปไม่นาน และครอบครัวชาวเวียดนามย้ายเข้ามาข้างบ้าน นำพาเรื่องขัดใจมากมายเข้ามา คุณปู่เลยต้องโชว์เก๋า







พูดถึงหนังเรื่องนี้

1. สำหรับใครที่เห็นหน้าปกเป็นคุณปู่ถือปืน + รถซิ่ง แล้วหวังว่าจะเป็นหนัง บู๊แอ๊คชั่น ขอให้ทำความเข้าใจใหม่ก่อน (เหมือนตัวผม) หนังเรื่องนี้อยู่ในหมวด Drama นะครับ เป็นเรื่องราวชีวิตของคุณปู่ผสมฉาก แอคชั่นเท่ๆของชายชาญทหาร


2. การวางพลอตเรื่อง ช่วงแรกจะปูนำทางให้ดูเหมือนปู่คนนี้เป็นคนเยอะเข้ากับคนยากเก็บตัวเรื่องมาก อาจจะมีเบื่อบ้างเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆเปิดมุมต่างๆของคุณปู่ กลายเป็นคุณปู่สุดเก๋าที่น่ารักไปอีกแบบ (สำหรับสังคมแบบอเมริกันคุณปู่อาจเป็นคุณปู่หัวโบราณ วุ่นวายเรื่องมาก แต่สำหรับสังคมเอเชีย ผมว่าคุณปู่แกน่ารักดี )


3. บุคลิกของคุณปู่ Walt Kowalski ที่รับบทแสดงโดย Clint Eastwood ถ้าใครได้ดูภาพมันคงติดตาไปอีกนาน กับความเก๋าวามเท่และน่ารัก
4. ฉากจบของเรื่อง ขอยกให้เป็นฉากจบที่เก๋าที่เท่ ที่สุดที่ได้ดูในรอบปีนี้ (อยากรู้ว่าฉากอะไรยังไงต้องหามาดูครับ)

IMDB : 8.3/10
Rotten Tomatoes : 80%
Makopoto : 10/10 และถ้ามีเวลาควรหามาดูครับ ^^

วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ความสุขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้

ความสุขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้

*** หนังสือที่ผมชอบที่สุดในช่วงปีที่ผ่านมา สำหรับทุกคนที่วนเวียนอยู่กับโลกออนไลน์ ออฟไลน์ ผมว่าทุกคนต้องลองอ่าน สำหรับเนื้อหาเนื้องเรื่องขอให้ผู้เขียนได้อธิบายหนังสือของเขาเองดีกว่า***



0. ในโลกที่เปลี่ยนแปลง ความสุขของชีวิตก็เปลี่ยนไป - ในยุคสมัยที่เราเปลี่ยนมือถือทุกปี ทั้งๆที่ยังใช้งานได้ , ยุคที่คนยอมเสี่ยงตายเพื่อผิวขาว , ยุคที่เรามีอะไรต้องรีบบอกต่อผ่านทวิตเตอร์, ฟอร์เวิดเมลล์ หรือบีบี โดยไม่ทันจะตรวจสอบ , ยุคที่เรานิยมความหมายของ คนดี แต่ก็สับสนว่าจริงๆแล้วคนดีควรเป็นอย่างไร , ยุคที่ facebook หรือ twitter กำลังกลืนกินชีวิตแล้วกำลังเปลี่ยนแปลงบางอย่างในจิตใจคน , ยุคที่เราเกาะติดข่าวสารมากเกินไป จนบางครั้ง ทำให้ทุกข์เกินจริง เพราะวนเวียนกับข่าวสารเดิมๆแต่เปลี่ยนเวอร์ชั่นจนเครียดซ้ำไปซ้ำมา , ยุคที่เราทุกข์กับข่าวสารที่ดราม่าคล้ายๆกับละคร จนอินแล้วมองข้ามความเป็นจริง , ยุคที่การคิดต่าง สร้างความรุนแรงถึงตัดเพื่อนหรือฆ่าฟัน , ยุคที่ น้ำเปล่า อาจจะมีมูลค่าสูงเพราะถูกทำให้เชื่อว่าเป็นยาวิเศษ แต่เราก็ยอมเสียตังค์ , ยุคที่ไม่ต้องให้ใครถามว่าอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร ทำอะไรอยู่ เพราะเราเป็นคนบอกเอง 
1. สิ่งที่ทำให้เราขุ่นเคืองใจที่สุดในหน้า facebook หรือในวงสนทนา คือ การเห็นเพื่อน , คนรู้จัก ฯลฯ แสดงความ สะใจ ดีใจ กับการสูญเสีย หรือใช้คำที่กด เหยียด ดูถูก 

หลายคนตัดเพื่อน เพราะเหตุการณ์นั้น คิดว่าเพื่อนตัวเองเลวร้าย ไร้เมตตา ไม่มีความเป็นมนุษย์ และที่น่าหดหู่ที่สุดคือคนสนิทหรือคนในครอบครัวต้องมาทำร้ายหรือฆ่ากันตาย 

ความคิดที่ถูกถ่ายทอดผ่าน ตัวหนังสือไม่กี่ตัว กับ คำพูดไม่กี่ประโยค นำไปสู่เรื่องเลวร้ายกว่าที่ควรจะเป็น 

*****
ทุกวันนี้ เราชินชากับความรุนแรงและเก็บสะสมความรุนแรงในใจมากขึ้น จากการอาศัยอยู่ในสังคมที่ข่าวสารโดยเฉพาะการเมือง เคลือบด้วย 'ความรุนแรง ความโกรธ ความเกลียดชัง' 

เวลาฟังปราศรัยหรือดูข่าว ก็จะเห็นรูปแบบการนำเสนอแบบหวือหวาดราม่า เนื้อหาที่พูดอาจจะเป็นความจริงหรือประเด็นที่ถูกต้องชอบธรรม แต่แทนที่จะพูดถึงเฉพาะประเด็นนั้น ก็สอดไส้ความเกลียด ดูถูก เหยียดหยาม

หรือแทนที่จะโจมตีเน้นประเด็น ก็ไปโจมตีบุคคลที่ฝั่งตรงข้ามให้ความนับถือ ด้วยคำพูดในเชิงส่อเสียดหรือตั้งฉายาให้กลายเป็นตัวตลก พยายามสร้างอารมณ์ร่วมให้กับมวลชนพวกเดียวกัน พอๆกับ เพิ่มความเกลียดชังให้กับมวลชนที่คิดต่าง

พออยากให้ฝั่งตรงข้ามเปิดใจรับความจริงอีกด้าน แทนที่จะใจเย็นๆพูดถึงเนื้อหา ก็เลือกจะนำเสนอแบบตัวเองเหนือกว่า ใช้คำหมิ่นหยามอีกฝั่ง ที่อาจหมายรวมถึงพ่อแม่พี่น้องของเขาที่มีความเชื่อแบบนี้มานาน ชวนให้โกรธจนไม่อยากรับฟัง ( เช่น “ปล่อยพวกโง่ๆแบบนี้ตาบอดกันต่อไปเถอะ” ฯลฯ)

***
การใช้สื่ออินเตอร์เน็ตโดยขาดความยับยั้งชั่งใจ ทำให้ สัญชาติญาณดิบของมนุษย์ขาดการกลั่นกรอง เป็นการส่ง id ออกมาโดยที่ superego ยังไม่ทันจะทำงาน

ข้อเขียนหรือความเห็นที่ออกมาท่ามกลางบรรยากาศร้อนระอุ ไม่สามารถเป็นตัวชี้วัดว่า ใครเลวกว่าใคร หรือ ใครไร้มนุษยธรรมกว่ากัน เพราะอย่าลืมคิดถึงตอนที่เราอารมณ์ร้อน เราก็ทำในสิ่งที่เราไม่คาดฝันได้เสมอ 

แล้วเมื่อใจเย็นลง เริ่มมีสติ มองย้อนกลับไป เราก็รู้สึกเสียใจในการกระทำนั้นๆ

***
เมื่อไม่พอใจเพื่อนหรือคนสนิทที่คิดต่าง ถอยห่างออกมาชั่วคราวย่อมเป็นการดีกว่า อย่าเพิ่งด่วนตัดสินอีกฝ่ายว่าชั่วหรือเลวร้ายแล้วไปตัดความสัมพันธ์

ให้โอกาสอีกฝ่ายได้เรียกสติกลับคืนมา ให้โอกาสเราได้ใจเย็นลง

อย่าให้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคม มีอิทธิพลมากเสียจนมาทำลาย ความสัมพันธ์ดีๆที่เราเคยมีกับเพื่อนหรือคนใกล้ตัวมายาวนานเลย

เพื่อนที่เรามองว่ามันเลวร้าย ไม่มีความเป็นคน แท้จริงแล้ว เขาก็ยังเป็นคนเหมือนกับเรา แต่ถูก ความเกลียดชังและความโกรธแค้นเข้าครอบงำ 

ยิ่งความรู้สึกเหล่านั้นถูกปลูกฝังมามาก มันก็ยิ่งฝังรากลึกอยู่ในใจ แม้แต่เราเอง ก็อาจไม่รู้ตัวว่า เพื่อนของเรา ก็มองเห็นเราเป็นแบบนั้นเหมือนๆกัน

และ ถ้าวันหนึ่งที่เรื่องราวเหล่านี้สงบ เมื่อถอดหัวโขนของสีที่สวมใส่ เราก็จะเห็นเพื่อนคนเดิม เหมือนที่ เพื่อนเห็นเราคนเดิม โดยที่ไม่ต้องเสียใจในสิ่งที่เคยทำร้ายกันเพียงเพราะ ความเชื่อที่แตกต่าง


... บางส่วนของบทความ'จะอยู่อย่างไร ถ้าไม่รักกัน' ในหนังสือ 'ความสุขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้' มีให้ทุกท่านติดต่อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป หาไม่เจอสั่งผ่านที่เคาเตอร์ของร้านนั้นๆได้เลยเน้อ

เขียนไว้จากประสบการณ์ตรงที่เห็นคนเป็นเพื่อนกัน คนรักกัน ต้องมาตัดเพื่อน มาทำร้าย มาเข่นฆ่ากัน เพียงเพราะความคิดต่างที่อ่านผ่านตัวหนังสือ เขียนไว้ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง และเชื่อว่า น่าจะใช้ต่อเนื่องไปได้อีกหลายปี

2. เราอาจจะคิดว่าเรารู้จัก friend ของเราดีจากสิ่งที่เขาเปิดเผย แต่ ความจริงคือ ต่อให้เจ้าของ facebook เปิดเผยตัวเองมากแค่ไหน แต่ถึงที่สุดแล้ว มันก็คือ ตัวตนในส่วนที่เขาอยากนำเสนอให้ friend รู้จัก 

เจ้าของ facebook คนที่เลือกรูปแก้มป่องตาโต หรือ คนที่ใช้รูปกระเซอะกระเซิงลงรูปโปรไฟล์ ไม่ได้แปลว่า ใครจริงใจใสซื่อกว่า แต่แปลว่า นั่นคือ ภาพที่เจ้าตัวอยากให้คนที่เข้ามาได้เห็น

ไม่ว่าจะเป็น info , status หรือ comment ล้วนแล้วแต่เป็น การสร้างตัวตนในแง่มุมหนึ่งจากแง่มุมชีวิตนับสิบ ซึ่งมีทั้งส่วนตัวตนจริงและส่วนแต่งแต้ม 

ความประมาท หลวมตัวเชื่อทุกอย่างในโลกของ social media เพราะคิดว่า นาย ก. ที่ดูเป็นคนดีมีน้ำใจคอยมาเม้นท์หรือส่งข่าวมากมายในโลก social media จะเป็นคนดีในโลกจริงด้วย นำไปสู่ คดีล่อลวงต่างๆ เช่น ลวงไปมอมทรัพย์ปล้นสวาทผ่าน hi5 หรือ facebook , หลอกเงิน follower ใน twitter จากเจ้าของแอคเค้าต์ชื่อดังที่มีคนติดตามจำนวนมาก ฯลฯ

Halo effect มักจะทำหน้าที่หลอกคนได้ดีเสมอในโลก social media เพราะใน facebook ,blog , twitter ฯลฯ เปิดโอกาสให้เลือกได้ว่าจะนำเสนอตัวเองอย่างไรให้โลกเห็น และแน่นอนว่า ธรรมชาติของคนส่วนใหญ่ย่อมนำเสนอ ภาพดี มากกว่า ภาพที่ขี้เหร่ไม่น่ามอง

... บางส่วนจากบทความในบท 'Facebook + twitter = What’s (happening) on your mind ?' ในหนังสือ 'ความสุขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้' 

หยิบมาโฆษณาบ้างอะไรบ้างพอเป็นน้ำจิ้ม แต่ถ้ายังขายไม่ออก มีแผนต่อไปว่า จะทำการโฆษณาฮาร์ดเซลล์ด้วยการให้ คนเขียนไปทำ planking บนกองหนังสือ

บุกคนสำคัญ

บุกคนสำคัญ

บุกคนสำคัญ ชื่อหนังสือแปลกแต่โดนตามแบบ นิ้วกลม

หนังสือที่จะพาเราบุกเข้าไปตีซี๊กับคนสำคัญของโลก โดยผ่านเพื่อน(ตัวอักษร)

ที่ถูกเล่าผ่านนิ้วกลมๆตามชื่อของเขา

"บุคคลที่มีหนังสือชีวประวัติมักจะมีชีวิตที่น่าอ่าน น่าสนใจ และคนเหล่านั้นมักจะ "ใช้ชีวิต"

ชีวิตที่ถูกใช้มักจะน่าสนใจและเข้มข้น

สำหรับบางบุคคล-ชีวิตของเขาเป็นชีวิตที่เราอยากมีบ้าง

และมีสิ่งหนึ่งที่คนเหล่านั้นไม่ตั้งใจ

แต่พวกเขามักจะสร้างให้เกิดขึ้นกับเราเสมอ

นั่นคือ-แรงบันดาลใจ

ผมคิดว่า ชีวิตจริงมักเป็นแรงบันดาลใจให้ชีวิตจริง"

ผมอ่านประโยคด้านหลังของหนังสือเล่มนี้เมื่องานหนังสือเดือน เมษาที่ผ่านมา

ก่อนที่จะได้อ่านเนื้อความข้างในมันเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้

บุคคลสำคัญทั้ง 16 คนที่ยกมามีทั้งที่ผมรู้จัก(คือเคยอ่านประวัติมาก่อน)

ผมอยากรู้จัก(กำลังหาอยู่) และผมไม่รู้จัก(ก็คือไม่รู้จัก)

และเมื่อได้อ่านก็เป็นจริงอย่างที่ นิ้วกลมเขียนไว้ด้านหลังของหนังสือว่า

"ชีวิตจริงมักเป็นแรงบันดาลใจให้ชีวิตจริง"

ชีวิตของทุกคนในนั้นล้วนสร้างแรงบันดาลใจมหาศาลผ่านตัวหนังสือ ผ่านตา ผ่านจมูก ผ่านปากถึงหัวใจ สร้างแรงบันดาลใจให้ออกไปไล่ล่าความฝันของตัวเองต่อ

ถ้าคุณกำลังหาหนังสือดีๆอ่านง่าย เนื้อหาสนุก แล้วได้แรงบันดาลใจก้อนมหึมาละก็

คุณต้องไม่พลาดหนังสือเล่มนี้ครับ บุกคนสำคัญ ของ นิ้วกลม



ถึงคุณนิ้วกลม

สวัสดีครับคุณนิ้วกลม ผมพึ่งอ่านหนังสือ บุกคนสำคัญของคุณจบครับ ผมชอบหนังสือเล่มนี้มากเลย ชอบที่คุณใช้วิธีเขียนจดหมายนำเสนอถึงบุคคลเหล่านั้น ผมเลยอยากลองเขียนจดหมายมาถึงคุณดีบ้าง

ก่อนจะพูดคุยกันผมขอร้องเรียนเรื่องหนึ่งกับคุณก่อนนะครับ คือ ผมตามอ่านหนังสือของคุณทุกเล่มเลยและชอบหนังสือของคุณเป็นอย่างมากครับ คือผมเป็นพวกชอบซื้อหนังสือเก็บไว้อ่านน่ะ ซึ่ง โตเกียวไม่มีขา อิฐ และ M&M มันหาซื้อไม่ได้แล้วในช่วงที่ผมหลงใหลในตัวอักษรของคุณและผมคิดว่าหลายๆคนก็กำลังหาซื้ออยู่เหมือนกัน ผมเลยอยากจะขอให้คุณ นำมาพิมพิ์ใหม่อีกครั้งแล้วผมจะไปซื้อมาเป็นคนแรกๆแน่นอนครับ

ในเนื้อหาของหนังสือ ผมอยากจะบอกว่าแค่อ่านประโยคแรกๆที่คุณเขียนถึง อัลวาโร นีล ก็โดนใจผมไปเต็มๆ คุณเขียนไว้ว่า "ผมคิดว่าคำพูดคมๆ นั้นจำเป็นต้องปล่อยออกมาจากปากของคนที่มีคม มิฉะนั้นมันก็ไม่ต่างกับลมเหม็นที่เผ่นผ่านออกมาจากรูทวารลำไส้ใหญ่" ประโยคนี้แหละครับที่โดนใจผมไปเต็มๆ เพราะตอนนี้คนรอบๆตัวผม มีมากเหลือเกินครับ ที่พยายามพูดคำคมเพื่อให้ตัวเองดีเท่ดูดี แล้วยิ่งอ่านจดหมายที่คุณเขียนถึง คุณอัลวาโร นีล จบ ผมก็เห็นด้วยมากๆกับประโยคขึ้นต้นของคุณที่ว่าเขาน่าจะ ชื่อคุณมีด มากกว่า เพราะคำพูดแต่ละคำของเขามันคมบาดลึกเหลือเกิน

ขอบคุณจากใจครับ

Idea Gets Rich เทคนิคสะกิดสมอง - พงษ์ ผาวิจิตร

Idea Gets Rich เทคนิคสะกิดสมอง - พงษ์ ผาวิจิตร

เนื้อหาด้านในเป็น Note ความคิดการจับประเด็นปนความคิดเห็นส่วนตัวของเจ้าของ Blog โปรดใช้วิจารณญารในการชม


Idea Gets Rich - เทคนิคสะกิดสมอง

แบ่งเนื้อเรื่องออกเป็น 3 ส่วน
1. ช่วงเกริ่นนำ
2. บุคลิกลักษณะของนักคิดที่ยิ่งใหญ่
3. เครื่องมือสังเคราะห์ความคิด

ช่วงเกริ่นนำ
ลักษณะความคิดของคนแบ่งออกเป็น 4 จำพวก(HBDI)
1. กลุ่มคนชอบคิดเชิงวิเคราะห์ Analytical Thinking 
2. กลุ่มคนคิดเป็นระบบ Sequential thinking (กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มระเบียบจัด)
3. กลุ่มคิดถึงคนอื่นก่อนเป็นประจำ Interpersonal Thinking 
4. กลุ่มคิดสร้างสรรค์ Imaginative thinking
ทั้ง 4 กลุ่มนี้ไม่มีกลุ่มไหนดีกว่ากัน และไม่มีใครเป็นกลุ่มไหนกลุ่มหนึ่งชัดเจน โดยในหนังสือได้ให้กราฟที่แสดงผลการวิจัยเลือกลักษณะนิสัยของคนเอาไว้เป็นรูประฆุังคว่ำคือ 1 นิสัยโดดเด่นน้อย แล้วค่อยๆสูงขึ้น ก่อนจะมาน้อยที่ลักษณะออก 4 ลักษณะในคนๆเดียว ซึ่งส่งที่พบคือ คน 3% เหล่านี้เป็นผู้ประสบความสำเร็จ
โดยหนังสือได้พูดถึงแนวทางการวางรากฐานความคิดว่าในปัจจุบันองค์กรให้ความสำคัญกับการคิดสร้างสรรค์มากขึ้น เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ (Creative problem Solving ) 
***แต่หนังสือเล่มนี้ผลิตเมื่อปี 2547 ตอนนี้เหมือนสังคมจะเน้นกลุ่มคิดถึงคนอื่นก่อน มากขึ้นซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นคนกลุ่มที่จะทำธุรกิจเพื่อสังคม CSR ต่างๆ

โดยรวมแล้วศักยภาพสมองของคนเราไม่ต่างกันหรอก เพราะเราใช้สมองกันแค่ 1-3% เท่านั้นเอง สิ่งที่ต่างกันคือการจัดการความคิด จัดระบบความคิดของเรา ซึ่งเราแต่ละคนนั้นสามารถเป็นอัจฉริยะได้เหมือนกัน 
EX. ริชาร์ด ไฟน์แมนที่ได้รางวัลโนเบลผลการทดสอบของเขามี IQ 122 เท่านั้นเอง

ซึ่งเมื่อเราพูดถึงศัยภาพของสมองเราจะนึกถึง IQ EQ แต่จริงๆศักยภาพของสมองนั้นถูกแบ่งซอยย่อยออกอีกเยอะเป็น
- ด้านการคำนวณ - ภาษา - กายภาพ - มิติ
- ดนตรี - สิ่งแวดล้อม - มนุษย์สัมพันธ์ - ตระหนักรู้ตัวเอง
เมื่อเรารู้ว่าศักยภาพสมองของเราด้านไหนดีเราจะได้พัฒนาไปได้อย่างถูกต้อง โดยในหนังสือก็บอกอีกว่า การที่เราจะคิดอะรใหม่ได้หรือประยุกต์สิ่งใหม่ขึ้นมามันก็มีกระบวนการของมันที่ต้องเริ่มที่พื้นฐานเราต้องมีพื้นฐานที่ดีก่อน 
โดยองค์ประกอบในการพัฒนาความคิดนั้นมีอยู่ 3 ส่วนด้วยกัน
1.ลักษณะนิสัยนักคิด
2.เครื่องมือในการสร้างความคิด
3.เทคนิค
เมื่อมีทั้งสามองค์ประกอบครบและใช้ทั้งสามร่วมกันก็จะช่วยให้เกิดการพัฒนาความคิดที่ดี 
TO BE CONTINUE..... 

บทสรุป Final Fantasy III on IPHONE

บทสรุป Final Fantasy III on IPHONE

FINAL FANTASY III (เป็นงานที่เขียนเพิ่มเติมแก้ส่วนที่ผิดของบทสรุปนะครับ)

ถ้ำคริสตัล - หมู่บ้าน อูล
เริ่มที่ถ้ำคริสตัลแห่งลม เดินเข้าด้านในระหว่างทางกำจักก๊อปลินแล้วเข้าด้านในจนสุดพบ Boss เต่ายักษ์ กำจัดแล้วเข้าไปสำรวจ คริสตัลแห่งลม
แล้วไปเข้าจุดวาร์ปออกมาด้านนอกถ้ำ เดินทางลงมาด้านใต้จะพบกับ

หมู่บ้าน อูล 
เข้าไปด้านในหมู่บ้านคุยกับผู้เฒ่าในบ้านจะสามารถเข้าไปเอากล่องสมบัติได้แล้วไปสำรวจหมู่บ้านทางขวาบนจะเจอกับ Arc คุยแล้วเขาแล้วเขาจะวิ่งหนีไป

หมู่บ้านทะเลทราย คาซุส
เราจะมาเจอ Arc หน้าหมู่บ้านและ Arc จะร่วมทีมไปด้วย ซึ่งภายในหมู่บ้านนี้จะเต็มไปด้วยคนถูกสาปเข้าไปในบาร์จะพบกับ ซิด ซิดจะยืนเป็นคนที่ 2 อยุ่ตรงข้างๆบาร์ เมื่อคุยเสร็จเดินออกมาตรงทะเลทรายข้างหมู่บ้านจะได้เรือเหาะมาใช้ ขึ้นเรือเหาะจะเจอกับ Rafia เธอจะเข้าร่วมทีมด้วย ต่อไปเดินทางไปทางตะวันตกเฉียงเหนือจะพบ ปราสาท ซาซุน

ปราสาท ซาซุน - ถ้ำแห่งแท่นบูชา
มาถึงปราสาท Ingus ที่ยืนอยู่หน้าปราสาทจะเข้าร่วมทีม ปราสาทนี้จะมีหอคอยทั้ง 2 ด้านสำรวจให้ทั่วโดยจะมี ดาบทอง ที่อยู่ที่หอคอยด้านซ้ายชั้นบนสุดควรมีเลเวลประมาณ 8-9 เพราะมีบอสเฝ้าดาบอยู่แล้วเข้ามาส่วนกลางแล้วเข้าพบ พระราชา เขาจะให้ช่วยไปตามองค์หญิงให้ จากนั้นนั่งเรือเหาะมาทางเหนือจะพบกับถ้ำแห่งแท่นบูชา เข้าไปด้านในที่ชั้นที่ 2 จะพบองค์หญิง ซาร่า แล้วเดินทางต่อจนพบทางตัน สำรวจโครงกระดูกจะมีทางไปต่อได้เดินต่อไปเรื่อยๆจะเจอทางไปแท่นบูชาซึ่งจะเจอ Boss จัดการแล้วจะเจอคริสตัลซึ่งเราจะได้อาชีพใหม่
- นักรบ 
- นักเวทย์ขาว 
- นักเวทย์ดำ 
- นักเวทย์แดง 
- ขโมย 
- มองค์ 

เสร้จให้เรากลับไปที่ปราสาท องค์หญิง ซาร่า จะใช้ลูกแก้วลงในน้ำจะทำให้คำสาปทั้งหมดหายไป หลังจากนั้น พระราชาจะขอบคุณและของมาให้เป็นการตอบแทน จากนั้นกลับไปที่ คาซุส อีกครั้งคุยกับ ซิด เขาจะดัดแปลงเรือเหาะให้เราและร่วมเดินทางไปด้วยซึ่งให้เราขับไปชนกับหินที่ขวางระหว่างภูเขาทางซ้ายเราจะไปหมู่บ้านต่อไปได้

หมู่บ้าน คาน่อน - หมู่บ้านคนแคระ
ที่นี่คือบ้านของ ซิด เมื่อเข้ามาหาข่าวให้ทั่วๆจะพบที่อยู่ของหมู่บ้านคนแคระ เดินทางลงใต้ไปที่นั่นแล้วเข้าไปในหมู่บ้านไปด้านบนลงไปในลำธารแล้วเดินไปตามลำน้ำตรงกอหญ้าทางขวาจะพบ อิเร็คเซอร์ นำกลับไป หมู่บ้าน คาน่อน มาให้ในบ้านด้านบนซ้ายให้คนป่วยเธอจะหายป่วย สำรวตรงเทียนจะพบทางลับเข้าไปในห้องเก็บของเก็บไอเทมออกมาแล้วออกจากหมู่บ้านเข้าภูเขาใกล้ๆ

ภูเขารังมังกร บาฮามุท
เมื่อเข้ามาให้วิ่งไปบนสุดของภูเขา เราจะพบรังมังกร และ เจอ แคท แต่ในขณะนั้น บาฮามุทจะกลับมาโจมตีพอดีให้เราวิ่งหนีอย่างเดียวโลดดดด!!!!

จากนั้นเราจะออกมาอีกทีหนึ่งเดินไปตรงป่าข้างล่างเข้าไปจะพบคนเคราะและได้มนต์ขาว มินิมัม ให้่เราใช้กับทีัมเราทั้งหมด (คำสั่ง ALL) แล้ว้เข้าหมู่บ้านคนแคระ ไปทางบ้านทางซ้ายบนเอายาแก้พิษ(attidote) ให้คนแคระในนั้นกินเขาจะหายและเปิดทางให้เข้าด้านในจนถึงทางออกให้ใช้มนต์ขาวมินิมันอีกครั้ง คืนร่างเดิม ออกจากถ้ำแล้วจะพบ ถ้ำโจรสลัด (จะมีทางลับอยู่ทางซ้ายที่ map ที่มีปืนใหญ่ให้ยิง จะมีของให้เก็บ ลองสำรวจให้ทั่ว)

ถ้ำโจรสลัด - วิหารแห่งเนปต์
เข้าไปตามทางจนถึงทางออกจะพบเรือ (อย่าพึ่งขึ้นเพราะจะเจอมังกรโหดมากตาย100%) ให้ไปที่วิหารแห่งเนปต์ทางซ้ายบนด้านบนของถ้ำโจรสลัดเข้าไปด้านในจะพบหัวมังกรที่ดวงตาหายไป จากนั้นใช้มนต์ย่อตัว มิมนมัม ย่อตัวแล้วเข้าไปในตามังกร (ผมเปลี่ยนเป็น Black mage แล้วใช้เวทย์อย่างเดียว) เข้าไปด้านในจนสุดจะพบเจ้าหนูขี้ขโมยจัดการมันแล้วจะได้ ดวงตามังกร ออกมาเอาดวงตาไว้ที่เดิม แล้วมังกรเนปต์ มันจะหลีกทางให้และเราจะได้เชี้ยววารีมา ตอบแทนมาแล้วนำเรือออกไปใช้ได้แล้ว แล้วล่องเรือไปทางตะวันตกเฉียงใต้จะพบหมู่บ้าน ท็อดกูล

หมู่บ้าน ท็อดกูล – ถ้ำโจรกูลกัน
เข้าไปคุยในบ้านหลังแรกเขาจะเปิดทางลับให้ไปพบกับผู้หญิงที่ขอความช่วยเหลืออยู่จากนั้นออกเดินทางมาทางตะวันตกเฉียงใต้ผ่านทะเลทราย – ป่าโจโกโปะ – หมู่บ้านบรรพบุรุษ เตรียมหาซื้อของให้พร้อมแล้วขึ้นเหนือต่อจะพบปราสาท อาร์กัส เข้าไปเก็บของให้หมดแล้วเดินทางต่อผ่านหุบเขาจะพบถ้ำโจรกูลกัน เข้าไปหานักเวทย์ที่ชั้นบนสุดจะได้ มนต์แปลงร่าง โทโด้ มาจากนั้นเดินทางมาทางตะวันออกเฉียงเหนือ หอคอยโจวเจิน

หอคอยจักร์กล โจวเจิน
เข้าไปในหอคอยเดินจนสุดจะต้องใช้เวทย์ โทโด้ แปลงร่างเป็นกบก่อนจึงจะเข้าไปได้ขึ้นไปได้ ขึ้นไปเรื้อยๆถึงชั้นที่ 5 จะพบทางตันให้สำรวจให้ทั่วจะเจอทางลับ เดินขึ้นไปต่อเรื่อยๆจะพบ Boss เมดูซ่า ที่มันได้รับคำสั่งจากปีศาจชินเคให้มาทำลายหอคอยนี้ ถ้าหอคอยโดนทำลายหมู่กเาะที่ลอยได้ทั้งหมดจะตกลงทะเลทันที เมื่อกำจัดได้สำรวจที่เตาไฟ ความทรงจำของ แคช จะคืนมาพบว่าเขาคือผู้ปกป้องหอคอยนี้แล้วเขาแยกตัวออกไป

ถ้ำชาวดาร์ฟ - ถ้ำคริสตัลแห่งไฟ
เมื่อเข้ามาคุยกับชาวดาร์ฟจะพบว่าพวกเขาจะขอร้องให้ไปเอาเสามังกรคืนมาให้หน่อย แปลงร่างเป้นกบแล้วไปทางซ้ายจะพบทางลงบ่อน้ำแล้วจะมาโผล่ในถ้ำเข้าไปด้านในกำจัด Boss แล้วจะได้เสามังกรคืนมา แล้วนำมาคืนให้ชาวดาร์ฟแล้วปักลงให้ครบ 2 เสาแต่จะมีปีศาจออกมาแล้วนำทั้ง 2 เสาหนีหายไป ออกจากถ้ำชาวดาร์ฟแล้วไปเข้าถ้ำคริสตัลแห่งไฟสำรวจให้ทั่วก่อนจะได้ดาบน้ำแข็ง แล้วเข้าไปด้านในสุดพบ Boss จัดการแล้วจะได้ เสามังกรทั้ง 2 คืนมาสำรวจที่คริสตัลแห่งไฟจะได้อาชีพใหม่มา
- นายพราน
- อัศวิน
- ขโมย
- นักศึกษา
จากนั้นกลับไปที่ ถ้ำชาวดาร์ฟ แล้วคุยกับพวกดราฟเขาจะให้เข้าห้องสมบัติเพื่อตอบแทนแล้วจะมีคนมาตามให้ไปช่วยพระราชาที่โดนจอมเวทย์ปีศาจไฮน์จับตัวไปจากนั้นเดินทางไปที่ หมู่บ้าน ท็อดกูล

หมู่บ้าน ท็อดกูล - ปราสาท ทอร์กัส
เมื่อเข้ามาจะถูกทหารของ จอมเวทย์ปีศาจไฮน์ จับตัวไปขังคุกในนั้นจะพบว่ามีพระราชาแห่ง ทอร์กัส ถูกขังอยู่ด้วยคุยแล้วใช้เวทย์ มินิมัม รอดผ่านรูออกไปแล้วคืนร่างเดิมไปตามทางเรื่อยจะพบ Boss จอมเวทย์ปีศาจไฮน์ กำจัดแล้วพวกชาวบ้านจะตามขอบคุณแล้วจะวาร์ปมาที่สวนนางฟ้าจะได้ เขี้ยววายุ มาจากนั้นเดินทางมาทางตะวันออกต่อจนพบปราสาท ทอร์กัส เข้าไปคุยกับราชาจะได้ไอเทม ฟันเฟืองแห่งเวลา มาแล้วนำกลับไปให้ ชิด ที่ หมู่บ้าน คาน่อน เขาจะอัพเกรดยานให้กลายเป็น ยานเอ็นเตอร์ไพซ์ แล้วบินออกจากเกาะลอยฟ้าไป จากนั้นบินหาเกาะซากเรือทางขวาบนของ Map แล้วเข้าไปด้านในจะพบผู้หญิงนอนอยู่กดใช้ยาถอนพิษกับเธอ เมื่อเธอหายแล้วจะบอกว่าชื่อ มาเรีย และร่วมทางด้วยจากนั้นเดินทางลงใต้มาจะพบเกาะใหญ่และพบวิหารแห่งน้ำ

วิหารแห่งน้ำ - ถ้ำแห่งน้ำ
เข้าไปด้านในสุดจะเจอเศษคริสตัล พอเราเก็บแล้วกลับออกมามุ่งหน้าไปถ้ำแห่งน้ำเข้าไปด้านในสุดจนถึงห้องเก็บ คริสตัลแห่งน้ำ เมื่อมาเรียเข้าไปใกล้จึงดอกธนูยิงตายและจะพบ Boss ปีศาจปลาหมึก จัดการแล้วสำรวจคริสตัลจะได้
เจ้าแห่ง ดิน,น้ำ,ลม,ไฟ
อัศวินมังกร
ไวกิ้ง
นักคาราเต้
นักดาบดำ
กวี
ผู้ใช้มอนสเตอร์
จากนั้นด้านนอกจะเกิดแผ่นดินไหวจนเกิดแผ่นดินใหม่ผุดออกมาแล้วทั้งหมดก็สลบไป ฟื้นอีกทีที่หมู่บ้าน อามูล

หมู่บ้าน อามูล
ตื่นมาแล้วเข้าไปพบผู้เฒ่าเขาจะขอให้ไปช่วย 4 ผู้เฒ่าแล้วเดินลงท่อระบายน้ำทางขวาล่างเข้าท่าด้านในจะพบ 4 ผู้เฒ่ากำลังโดนกีอปลินรุมทำร้ายจัดการมันให้หมดช่วยผู้เฒ่าแล้วเข้าด้านในต่อจนสุดจะพบ แม่มดเคริร่า คุยจบทั้งหมดจะวาร์ปออกมาในหมู่บ้านจะพบว่าเรือถูกล่ามโซ่และกุญแจจะอยู่ที่วิหารทองคำทางตะวันออกเฉียงใต้

วิหารทองคำ
เข้าไปด้านในไปที่มุมขวาห้องที่ 2 ประตูด้านในใช้กุญแจเวทย์ไขหรือให้อาชีพขโมยไขเข้าไปก็ได้ที่ห้องที่ 2 จะมีทางลับอยู่จะพบรูปปั้นและกำแพงที่ดูแตกต่างกับที่อื่นเดินเข้าไปจะพบทางลับเข้าด้านในสุดจะพบ คริสตัลทองคำ และพบ Boss กำจัดแล้วมันจะทำลายคริสตัลทิ้งแล้วหนีไปทิ้งกุญแจเอาไว้ เก็บเอากลับมาไขโซ่ที่ล่ามเรือแล้วออกเดินทางต่อทางตะวันออกจะพบ ปราส่าทโรซาเรีย

ปราสาทโรซาเรีย
เมื่อบินผ่านมาจะพบว่ากำลังมีสงครามอยู่จึงโดนลูกหลงยิงเรือเหาะจนตก และตกลงมาท่ามกลางสงคราม สังเกตดูจะพบหมู่บ้านล้อมรอบปราสาท 4 หมู่บ้านให้เข้าซ้ายล่างก่อนเข้าไปในบาร์แล้วคุยกับผู้เฒ่าเขาจะหลีกทางให้เข้าไปในบาร์ด้านในจะพบ เจ้าชายอารูส โดนปีศาจจับตัวไว้จัดการปีศาจแล้วเจ้าชายจะร่วมทางด้วยโดยขอร้องให้ไปช่วยปราบ ปีศาจการูด้า ให้เราไปหมู่บ้านทางขวาบนไปหอคอยชั้นบนสุดจะได้ชุดของนักรบมังกรมา ซึ่งเอาไปสุ้กับการูด้าได้สบาย เดินเข้าไปในตัวปราสาทแล้วเข้าห้องของ อารูส พัก 1 คืนตอนกลางคืนจะพบว่าพระราชาจะหนีปีศาจเข้ามาหาพบ Boss ปีศาจสายฟ้า จัดการแล้วราชาจะตายลงและ อารูส จะครองราชแทนคุยจบแล้วออกมาด้านนอกเข้าหอคอยขวาล่างจะพบพวก กวี 4 คนพวกเขาจะช่วยสร้างยาน อติรุส ให้เพื่อตอบแทนแล้วออกขึ้นเรือหน้าปราสาทเดินทางมาทางใต้จะพบเกาะใหญ่ๆให้อ้อมลงด้านล่างที่มีป่าจะพบ ตำหนักโคก้า

ตำหนักโคก้า
เข้าไปจะพบ โคก้า จะมีของให้เวทย์ให้ซื้อด้วย เข้าไปด้านในจนถึงแท่นเทียนสำรวจเพื่อเปิดทางเข้าไปด้านในจะพบรูหนีให้ใช้เวทย์ย่อตัว มินิมัม เข้าไปจนถึง วงเวทย์ด้านใน โคก้า จะขอบคุรและแปลงยานตอนแรกของเราให้เป็นเรือดำน้ำ ให้กลับไปเอายานลำเล็กแล้วไปที่ตะวันตกเฉียงใต้ของ ปราสาทโรซาเรีย จะพบแหลมให้ใช้เรือดำน้ำดำลงไปจะพบถ้ำ เข้าด้านในจนสุดแล้วจัดการ boss ซะ แล้วจะได้ ขลุ่ยแห่งโนอา

เทวะสถานแห่งกาลเวลา - ถ้ำ อุเน่ - ถ้ำอินบินซิเบิ้ล
จากนั้นให้เราออกมา แล้วบินไปทางเหนือสักเล็กน้อยจะพบทางเข้าไปทางซ้าย และจะพบกับถ้ำตรงกลาง ด้านในจะพบอูเน่ หลับอยู่ ให้ใช้ขลุ่ยโนอา จะทำให้อูเน่ ตื่นขึ้นมา และได้เป็นเพื่อนร่วมทางพร้อมกับเขี้ยวอัคคี จากนั้นให้กลับไปยังปราสาทซาโรเนีย 

แล้วบินไปทางซ้ายเลาะไปตามแม่น้ำด้านบน จะพบกับถ้ำ ด้านในจะมีหินขวางอยู่ แต่ถ้ามีอูเน่ จะสามารถผ่านไปได้ เข้าจนด้านในสุดจะพบเรือเหาะยักษ์ อินริซิเบิ้ล จากนั้นอูเน่ ก็จะจากไป ให้เราใช้เรือเหาะอินริซิเบิ้ล บินไปยังหมู่บ้านอามูล แล้วบินขึ้นเหนือพบกับภูเขาที่เป็นช่อง ๆ ให้เรากระโดดข้ามไปเรื่อย ๆ จนเข้าไปยังถ้ำตรงกลางได้ 

และร่วมทางด้วยออกนอกถ้ำขึ้นเหนือเลาะลำธารเข้าช่องเขาจะพบ ถ้ำอินบินซิเบิ้ล เข้าไปจะพบหินปิดทางอยู่ แม่เฒ่าอุเน่ จะเปิดทางให้เข้าด้านในจนถึงชั้น 8 จะพบเรือเหาะยักษ์อินบินซิเบิ้ล คุยกับคนขับเพื่อออกเดินทาง สำรวจดูจะพบว่าเรือเหาะนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายจากนั้น แม่เฒ่าอุเน่ จะมอบคริสตัลให้อีก 1 ลูกแลจากไป 
(จะไปบนเกาะลอยฟ้าตรงภูเขาด้านขวาล่างก่อนก็ได้เราจะเจอถ้ำบาฮามุทมีของดีอยู่แล้วพอสู้ชนะบาฮามุทจะได้มนต์อสูรมาด้วย)
จากนั้นบินมาทางตะวันตกบินชนภูเขาแล้วลงล่างจะพบบ่อน้ำในป่าแล้วบินมาทางขวาเข้าไปในช่องเขาจะพบทางตัดให้ใช้เรือเหาะโดดข้ามเขาไป ข้างหน้า 2 ที , ล่าง 2 ที่ ,ขวา 2 ที,ล่าง 1 ที,บน 2 ที,ขวา 1 ที,บน 2 ที,ซ้าย 1 ทีแล้วลง 3 ทีจะพบทางแยก 3 ทางให้เข้าทางตรงกลางจะพบ ถ้ำอันโดกุ

ถ้ำอันโดกุ - ถ้ำโคก้า
ด้านบนของน้ำตกจะพบต้นไม้ลางตาเข้าสู่ถ้ำน้ำตกเข้าไปด้านในจะพบนักดาบดำเข่าไปคุยกับเขาจะได้ดาบมาออกมาแล้วไปทางขวาต่อจะพบ ถ้ำวงกต เข้าไปด้านในจนสุดจะได้ คริสตัลแห่งดินมา ตอนนี้มีคริสตัลครบ 4 อันแล้วจากนั้นกลับออมาขึ้นเรือเหาะอินบินซิเบิ้ลแล้วเปลี่ยนมาเป็นเรืออติรุส เดินทางไปที่ตำหนักโคก้าเข้าทางวาร์ปด้านในจนถึงถ้ำโคก้า เข้าด้านในสุดจะพบ โคก้าและ อุเน่ ซึ่งจะแปลงร่างมาสู้ทั้ง 2 คนจัดการได้จะได้ กุญแจ 2 ดอกที่ใช้เปิดประตูปราสาทคริสตัลได้ จากนั้นออกมาเปลี่ยเป็นเรือ อินบินซิเบิ้ล บินขึ้นเหนือของตำหนักโคก้าจะพบเกาะอีกเกาะและจะพบช่องเขา 4 ช่องที่มีเทวรูปทั้ง 4 ธาตุที่ต้องใช้คริสตัลทั้ง 4 เข้าไปทำลายธาตุด้านในทำลายให้หมดแล้วขึ้นเรือเหาะเดินทางโดดข้ามเขาต่อจะพบ ปราสาทคริสตัล

ปราสาทคริสตัล
เดินเข้าห้องตรงหน้าแล้วจะพบ Boss จัดการแล้วสำรวจผลึกแห่งไฟจะได้อาชีพเพิ่ม
- จอมขมังเวทย์
- นินจา

เดินทางผ่านกำแพงปราสาทเข้าด้านในที่ห้องกระจกด้านในจะใช้กุญแจดกอที่ 1 ที่ได้มาไขเข้าโลกแห่งกระจกได้ ในนี้จะมีอาวุธสุดยอดต่างๆมากมายเก้บให้หมด แล้วเข้าด้านในจะเจอนักเวทย์ขายเวทย์กับมนต์อสูรเสร็จแล้วออกมา ไปทางซ้ายมือจะเจอประตูอีกบานให้ใช้กุญแจไขแล้วเดินต่อไปเรื่อยๆๆๆจนถึงชั้นบนสุด
จะพบมังกรและกระจกอยู่สำรวจที่กระจก โคก้า จะพาพวกเพื่อนๆทั้ง 5 มาช่วยอีกคือ ชิด, ซาร่า ,แคช , 1 ใน 4 ผู้เฒ่า และ เจ้าชายอารูส แล้วขึ้นไปด้านบนสู้กับจอมจักรพรรด์พอชนะมันจะหนีไป ให้เราตามไปจะเจอจอมจักรพรรดิ์ปีศาจอีกครั้งคราวนี้เราจะสู้มันไม่ได้ อย่าใช้ดาวกระจายละ และเราจะเสียชีวิต

แล้วเพื่อนทั้ง 5 ของเราจะรวมพลังชุบชีวิตเราขึ้นมา ให้เข้าไปยืนในวงกลมสีน้ำเงิน เราจะวาร์ปมาอีกชั้นหนึ่ง แล้วให้เราไปปราบปีศาจทั้ง 4 ทิศให้ได้ก่อน จะมีทางอยู่ 4 ทาง ซึ่งมันจะอยู่ตัวละทาง เมื่อปราบปีศาจในแต่ละทิศได้จะเห็นผลึก ให้สำรวจ จะมีคนที่ถูก

ขังเดินออกมา ซึ่งมีทั้งหมด 4 คน 4 ทิศ เมื่อกำจัดได้ทั้ง 4 ทิศแล้ว ให้ไปที่ประตูตรงกลาง แล้วจะต้องปะทะกับจอมจักรพรรดิ์ปีศาจอีกครั้ง 
คราวนี้ก็ได้เวลาตัดสินกับจอมจักรพรรดิ์ปีศาจเสียที พยายามกำจัดมันให้ได้ เมื่อปราบมันได้ ก็จะพบกับฉากจบของเกมส์...

Credit : http://www.gconsole.com/forum/show.php?page=topicdetail&pagenum=1&cat=&perpage=15&id=979