วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Gantz Perfect Answer : Part 2 (2011)


ภาค 2 Perfect Answer

เนื้อเรื่องเริ่มต่อจากภาคที่ 1 หลังจากคาโต้เสียชีวิต คุโรโนะ เคย์ กลายเป็นผู้นำของกลุ่มกันซึ
ออกเก็บคะแนน 100 คะแนน และเป็นจังหวะเดียวกันกับ เรกะ ที่ได้รับคำสั่งลูกบอลสีดำให้ตามเหล่ากันซึรุ่นเก่าที่ได้อิสระแล้วกลับมาใหม่ เพื่อเตรียมทำสงครามกับเหล่ามนุษย์ต่างดาว ที่เริ่มตามแก้แค้นกันซึ

เรกะกับกันซึน้อย 
สำหรับภาคนี้เป็นการเอาเหตุการณืสำคัญต่างๆ ในหนังสือต่อจากตอนที่แล้วจนถึงตอนจบ มาผสมปนเปกันและหาข้อสรุปใหม่ให้กับเรื่อง
1. ลูกบอลสีดำและการตามล่าสมาชิกกลับมาร่วมทีมกันซึ
- การ์ตูน อิซุมิ(หัวหน้าทีมกันซึคนก่อน) ได้รับลูกบอลสีดำหลังจากได้อิสระ และทำการฆาตกรรมหมู่คนเก่งๆเพื่อกลับมายังห้องกันซึอีกครั้ง (เรกะก็โดนอิซุมิฆ่า)
- ภาพยนตร์ เรกะเป็นอิซุมิในการ์ตูน เคยได้อิสระมาแล้ว และเริ่มตามล่าคนได้อิสระเผื่อให้กลับมาที่ห้องกันซึ 
+ ต่างกันที่ อิซุมิต้องการกลับมาห้องด้วยแรงผลักดันบางอย่าง แต่ในภาพยนตร์เรกะไม่ต้องการ
นักสืบที่ตามเรื่องกันซึ
 2. นักสืบที่ตามเรื่องของกันซึ
- ในการ์ตูน เป็นคนที่ตามเรื่องของกันซึมานานจนมาเจอคุโรโนะ ในตอนที่ได้อิสระแล้ว ทำให้คุโรโนะจำข้อมูลอะไรไม่ได้ จนตามสืบไปเจอโฮสต์ซามูไร และบอกที่อยู่ของอิซุมิไป เป็นเหตุให้อิซุมิตาย (เหตุการณ์อิซุมิตาย เป็นการสะท้อนสังคมอย่างหนึ่งในเรื่องช่วยเหลือกัน) และเป็นตัวละครสำคัญในช่วงท้ายที่ตามสืบไปพบต้นตอของโรงงานกันซึที่เยอรมัน
- ในภาพยนตร์ ตามสืบเรื่องราวของกันซึ และพบเจอล่องลอยของผู้ที่หายสาบสูญและกลับมาใหม่ โดยในช่วงแรกช่วยเหลือกลุ่มโฮสต์ซามูไร(เอเลี่ยน) ในการตามสืบเรื่อง จนตอนท้ายตัวเองต้องมาเสียชีวิต


3. คุณลุง
- ในการ์ตูน โผล่มาตอน อิซึมิ ไล่ฆ่า เป็นตัวละครสำคัญอีกตัวที่ทำให้ที่เป็นแรงผลักดัน และช่วยเหลือคุโรโนะ จนถึงช่วงท้ายของเรื่อง
- ในภาพยนตร์ โผล่มาแต่ตอนแรกๆ แต่ไม่ได้มีความสำคัญกับตัวละครอื่นมากมาย จนตอนท้ายที่คุโรโนะไว้ใจและให้พาทาเอะหนี
นิชิคุง เด็กที่รู้เรื่องกันซึมากที่สุด
4. นิชิคุง เด็กที่น่าจะรู้เรื่องกันซึมากที่สุดคนหนึ่งของเรื่อง
- การ์ตูน โผล่มาตั้งแต่ตอนแรก ในตอนท้าย คุโรโนะชุบชีวิตขึ้นมา(ใช้ 100 คะแนนของคินนิคุแมน) เพื่อถามถึงรายละเอียดของกันซึ เพราะสภาพวแดล้อมเปลี่ยนไป คนสามารถมองเห็นได้ ซึ่งนิชิคุงก็เปิดเผยถึงวันสุดโลกที่กันซึทำนายไว้ (ตอนล่าสุดยังมีชีวิตอยู่) ซึ่งในช่วงท้ายของเรื่องก็เฉลยถึงที่มาของนิสัยเห็นแก่ตัวของนิชิ ที่เป็นจากการป้องกันการถูกโจตีของเพื่อนร่วมห้องและคนรอบข้าง
- ภาพยนตร์ โผลมาแต่ต้นเรื่องเช่นกัน และถอดแบบออกมาได้น่ารังเกียจเหมือนกัน แต่ความสำคัญในช่วงเฉลยตอนท้ายไม่มีบทบาทเลย เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เนื้อเรื่องไปต่อได้

โฮสต์ซามูไร & แก๊ง
 5. ไอ้บ้าโฮสต์ซามูไร ตัวป่วนในฉบับการ์ตูน
- การ์ตูน ไอ้บ้าโฮสต์ซามูไรโผล่มาป่วนตั้งแต่ตอนสู้กับไดโนเสาร์หลังจากทุกคนถูกส่งตัวกลับ +กับเป็นคนที่เชิญยักษ์สายฟ้าเข้าสู่การต่อสู้จนทำให้กันซึเปลี่ยนแปลงไป แถมยังเป็นคนที่ฆ่าอิซุมิ อากิระน้องชายคุโรโนะ (ที่กลายเป็นพวกเดียวกัน น่าจะเป็นแวมไพร์) และฆ่าคุโรโนะ ตอนที่ได้อิสระแล้ว แต่ตัวเองก็มากลายเป็นส่วนหนึ่งของกันซึ และช่วยปราบบอส 100 คะแนนที่โฮซาก้า
- ภาพยนตร์ เป็นมินิบอสของหนัง จ้องจะทำลายกันซึและแก้แค้นให้พวกพ้อง แต่โดนคุโรโนะฆ่าตายบนเหตุการณ์บนรถไฟ (ฉากที่มันส์ที่สุดของภาคนี้)

ฉากทาเอะถูกฆ่าตาย(การ์ตูน)
6. การถูกตามล่าของทาเอะ
- การ์ตูน ทาเอะถูกตามล่าหลังจากฆ่าอัศวินม้าดำ เพราะคุโรโนะเข้าไปช่วยเหลือ และทาเอะเห็นเหตุการณ์ลาง กันซึรู้สึกมีภัยจึงออกคำสั่งฆ่าทาเอะเป็นเหตุการณ์แบ่งออกเป็น 2 ฝั่งหันปืนเข้าสู้กัน
- ภาพยนตร์ ทาเอะถูกหมายหัวตั้งแต่เรกะได้ลูกบอลลูกเล็กเป็นภารกิจสุดท้าย เป็นเหตุการณ์นองเลือดบนรถไฟ แต่ภารกิจไม่สำเร็จ เรกะถูกคาโต้(เอเลี่ยน)ฆ่า กันซึจึงเริ่มแผนการใหม่ให้ไปฆ่าทาเอะ (โดยใช้ฉากเป็นตอนกันซึในการ์ตูนไปสู้ที่โอซาก้า)
ซึ่งในภาพยนตร์ไม่มีเหตุผลอะไรที่กันซึจะต้องให้ไปฆ่าทาเอะเลย

ลูกบอลกันซึตอนท้ายยังคงอยู่
7. ตอนจบของเรื่อง
- การ์ตูน ปริศนาที่มาของกันซึถูกเฉลยไปตอนท้ายเรื่องว่าผลิตขึ้นมาจากน้ำมือมนุษย์และมีลูกบอลอย่างนี้อยู่ทั่วโลก โดยโรงงานผลิตอยู่ที่เยอรมัน ปัจจุบันยังมีปริศนาที่รอการเฉลยอยู่ เพราะยังไม่จบ และน่าจะอีกนานกว่าจะจบ
- ภาพยนตร์ มีประเด็นการล้างแค้นขึ้นมา สุดท้ายเลือดก็ต้องล้างด้วยเลือดแต่ประเด็นนี้ก็ตกไป เพราะเนื้อหาไม่ได้ให้เหตุผลที่กันซึเรียกทุกคนมา การคงอยู่ของมันมีเพื่ออะไร และเรียกคนมาปราบเอเลี่ยนเพราะอะไร? 

IMDB : 6.4/10
Rotten Tomatoes : 43%
Makopoto : 5/10 ไม่ถึงขั้นเลวร้าย เพียงแต่ตอนจบไม่ได้เฉลยอะไรและจบแบบงงๆง่ายๆเมหือนหมดมุขไปหน่อย (การ์ตูนดีกว่ามากครับ ไม่ใช่ Animation ด้วยนะอันนั้นก็หลุดโลกไป)

วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Gantz : Part 1 (2010)




ภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ทำจากหนังสือการ์ตูนที่ดังมากๆชื่อเดี่ยวกัน Gantz (เมืองไทยเคยโดนแบนไปพักใหญ่ๆปัจจุบันออกมาถึงเล่ม 24 ถ้าหาในเน็ตดีๆอาจมีให้อ่านถึงเล่ม 33 แบบแปลไทยครบ) สำหรับตัวหนังสือการ์ตูนได้รับความนิยมทั้งในญี่ปุ่น และ บ้านเรา (น่าจะทั่วโลกแต่ไม่แน่ใจเท่าไหร่) เพราะเป็นการตูนที่แหวกแนวเป็นทั้งการ์ตูน Sci-fi, Fantasy, รักโรแมนติก, ลึกลับ,โหด,หื่น,ภาพสยอง,มุมมืดของมนุษย์ มาครบทุกรูปแบบสำหรับผู้ใหญ่บริโภคเอามันส์

สำหรับตัวการ์ตูนผมให้ 10/10 นอกจากเนื้อเรื่องไม่เหมือนในตลาดการ์ตูนยังเขียนได้ดีภาพสวยตื่นเต้นและมันส์โครตๆทั้งการออกสู้กับเอเลี่ยน มุมมองชีวิต หรือปริศนาของเรื่องก็ตาม

กันซึ (Gantz) ชื่อลูกบอลดำลูกนี้ที่มีปริศนาเยอะเหลือเกิน
สำหรับบทภาพยนตร์ : เนื้อเรื่องเริ่มต้นเหมือนในการ์ตูนคือ คุโรโนะ เคย์ ได้มาเจอเพื่อนเก่าสมัยประถม ซาโต้ ทั้งคู่ลงไปช่วยคนที่ตกรางรถไฟ ก่อนที่จะพลาดถ้าเสียทีเสียชีวิต และโผล่มาหน้าลูกบอลสีดำ ที่ชื่อว่า กันซึ พร้อมคนอื่นๆที่เสียเวลาไล่เลี่ยกัน โดยกันซึจะทำการเรียกคนที่ชีวิตช่วงเวลาใกล้มาเพื่อให้ทำภารกิจสู้กับมนุษย์ต่างดาว และเมื่อสะสมคะแนนได้ 100 คะแนนจะสามารถทำให้ตัวเองเป็นอิสระ หรือจะชุบชีวิตใครก็ได้ 1 คน

เนื้อเรื่องของภาคนี้ไม่ได้แต่งต่างกับตัวการ์ตูนมากนัก ใช้เค้าโครงดำเนินเรื่องเดียวกัน ต่างที่การลงรายละเอียดของเรื่อง ซึ่งทางหนังสือการ์ตูนทำตรงนี้ได้ดีมากและเคลียร์ทำให้เห็นการพัฒนาการของตัวละคร เบื้องหลังความคิดหลายๆอย่าง(แต่ก็เข้าใจว่าหนังเวลาไม่พอ) เนื้อเรื่องภาคนี้เล่าถึงตอนสู่กับเอเลี่ยนกวนอูพันมือ (ตอนที่ 90) ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้พระเอกของเราเก่งกาจและเติบโตขึ้น

คุโรโนะ เคย์(ซ้าย) และ ซาโต้(ขวา)
เรื่องภาพของหนังทำออกมาได้ดีทั้งหมดดูเนียนไม่มีหลุด ฉากบู๊ก็ดูสนุก ติ้นเต่น ฉากสยองชวนแหวะก็ลดจากบทการ์ตูนไปเยอะเหลือเฉพาะตอนสู้กับเอเลี่ยนตัวแรกกับตัวสาม ส่วนฉากเซอร์วิสอย่างในการ์ตูนก็มีให้เห็นแค่ตอน มิชิโมโตะ ปรากฏตัวกับสัดส่วนหาค้นหาในห้องของคุโรโนะเท่านั้น
**ขวัญใจผม เรกะ ยังไม่ออกมาในภาคนี้
*** ทาเอะเป็นตัวละครที่ออกมาตั้งแต่เนิ่นแต่ยังไม่มีบทโดดเด่นอะไรในภาคนี้ ซึ่งในตัวภาพยนตร์น่ารักกว่าในหนังสือการ์ตูนเยอะเลย
ฉากเลือดพุ่งกับเอเลี่ยนต้นหอม

ทาเอะจัง น่าจะเป็นตัวละครสำคัญภาค 2

สรุป ตัวหนังทำออกมาได้ดี ถ้าใครไม่เคยอ่านการ์ตูนมาก่อนคงชอบ (ใครที่เกลียดหนังแหวะๆยิงปืนตูมตาม ก็ทำใจก่อนดูนิดนึงครับ) ส่วนใครที่อ่านการ์ตูนแล้วมาดูก็อาจจะผิดหวังนิดหน่อยเพราะการ์ตูนเขียนออกมาได้ยอดเยี่ยมจริงๆ

IMDB : 6.5/10
Rotten Tomatoes : 57%
Makopoto : 7/10


วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Mission Impossible 1 [1996]



Mission Impossible 1
สำหรับภารกิจแรก MI คือ การโจรกรรมรายชื่อข้อมูลสายลับ CIA อีธาน ฮันต์ พระเอกสายลับของเรื่องและเพื่อนร่วมทีมนำโดย จิม(Jon Voight) ทำงานเป็นสายลับให้กับ CIA ในการทำภารกิจต่างๆ ภารกิจครั้งนี้ที่เขาได้รับคือการหาหลักฐานและรวบตัวของ ผู้ซื้อและขายข้อมูลรายชื่อสายลับ แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเพื่อนร่วมทีมของเขาเสียชีวิตทั้งหมด จากการที่ CIA มีหนอนบ่อนไส้ อีธาน ฮันต์จึงออกสืบเพื่อทวงแค้นและหาความจริง...

ฉากระเบิดหมากฝรั่ง และท่าวิ่งสุดหล่อในตำนาน

เรื่องราวของ MI-1 สำหรับผมมันเหมือนต้นแบบของสายลับในวัยเด็ก อาวุธล้ำสมัย หน้ากากเปลี่ยนหน้า คอมพิวเตอร์ แฮคเกอร์ ปืน มันถูกทำให้ติดตาฝังใจไปว่าสายลับต้องออกมาในรูปแบบนี้ (โดยเฉพาะหน้ากากปลอมตัว) 

สำหรับเนื้อเรื่องมันเหมือนเป็นการกลับมาดูหนังเก่าที่จำได้บ้างไม่ได้บ้างดูแล้วหวนนึกถึงช่วงเด็กๆทำให้ไม่ตื่นเต้นกับจุดหักมุม แผนซ้อนแผน ของเรื่องมากมาย แต่ก็ยังสนุกกับเรื่องราวของหนังได้อยู่



ฉากในตำนานแห่งศตวรรษที่ 20

อีธาน : แทบจะเป็นสุดยอดพระเอกที่ได้ทั้งบุ๋นและบู๊ ภาคนี้ไม่มีด้านมืด ข้อเสียของอีธานให้เห็นเลย เป็นการโชว์เทพล้วนๆ 

สำหรับฉากห้องรักษาความปลอดภัย CIA ดีกี่ครั้งก็ยังสนุก ลุ้น และ เท่โครตๆ ทุกที ขอชมคนคิดระบบป้องกันในห้อง ที่ทำให้เกิดฉากโจรกรรมเท่ๆอย่างนี้ และขอชมอีกครั้งกับฉากก่อนหนีที่ปล่อยมีดตกลงบนโต๊ะ ฉากนี้หล่อมากกกกก 
อีธาน ภาค 1
อีธาน ภาค 4

Mission Impossible 1 เข้าฉายในปี 1996 Tom Cruise ในเรื่องอายุตอนนั้น 34 ปี (1996-1962) กับภาคล่าสุด Mission Impossible : Ghost Protocol อายุ 49 ปี เวลาต่างกัน 15 ปี ใบหน้าของอีธานไม่เปลี่ยนไปเลย
ควรถูกจับตรวจกรรมพันธ์ คอลลาเจน ด่วน!!

IMDB : 6.9/10
Rottentomatoes : 61%
Makopoto : ถ้ายังไม่เคยดูลองหามาดูครับ สำหรับคนที่เคยดูแล้วสมัยเด็กหยิบมาดูก็เป็นการย้อนวัยดีนะครับ

วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Midnight in Paris



Midnight in Paris

หนังที่ Paisit Sirilertsakul แนะนำ และชวนไปดู

เนื้อเรื่อง : เรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่งที่กำลังจะแต่งงานกันเร็วๆนี้ บินมาปารีสพร้อมกับครอบครัวของฝ่ายหญิง เนื่องด้วยเหตุผลทางธุรกิจ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าการมาปารีสจะเปลี่ยนชีวิตของคนทั้งคู่ไป จากชายหนุ่ม ที่เป็นนักเขียน ซึ่งรักในศิลปะ และจำต้องใช้เวลาส่วนตัวและความเงียบในการแต่งผลงาน กับ หญิงสาว ที่ดูจะรักสังคมรักปาร์ตี้ซะเหลือเกิน แล้วแถมจะไม่ค่อยชอบศิลปะเท่าไหร่นัก แถมยังมีตัวแปรที่เป็นหญิงสาวอีกคนที่รักในงานศิลปะ และดูจะเข้ากันกับมากกว่า และเพื่อนใหม่แปลกหน้าที่มาพร้อมกับมิตรภาพที่พยายามจะผลักดันให้งานเขียนของเขาเป็นที่รู้จัก และคอยให้กำลังใจกับงานเขียนที่ดูจะไม่เป็นตามที่พูดเท่าไหร่ เขาต้องตัดสินใจทำในหลายๆสิ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล แต่สิ่งหนึ่งที่มันจะไม่เปลี่ยนแน่ๆคือ เขารักปารีส เมืองของจิตรกร และนักเขียนช่างฝัน




ขอพูดถึงหนังเรื่องนี้ 
- ชอบมากกับภาพของหนัง และเสียงเพลงประกอบ บทเพลงที่ใช้ในเรื่อง ช่วยขับบรรยากาศให้โรแมนติก สวยงาม หลงใหล ปนเสน่ห์ไปกับหนังไปกับปารีส (แม้คนที่ไปส่วนใหญ่จะบ่นกันเสียงเดียวว่ามันสกปรก)
- ฉากเปิดตัวหนัง ที่เป็นฉากมุมปารีสทีละมุม ทีละมุม จากไก่โห่ยันพระอาทิตย์ลับตา น่าหลงใหล และ ชวนให้ไปเหยียบซักที
- ตัวหนังเป็นหนังที่มีบทสนทนาเยอะมากเรื่องหนึ่ง ซึ่งต้องชมคนเขียนบทที่ทำประโยคสนทนาออกมาได้ดู นั่งฟังนั่งอ่านแล้วไม่เบื่อ
- ประเด็นที่สอดแทรกมาของหนังที่ผมว่าทุกคนคงต้องเคยคิดถึงมัน แต่สิ่งไหนเล่าจะดีเท่ากับปัจจุบัน การหลงใหลอดีตไม่ใช่เป็นสิ่งที่ผิดแต่การเลือกที่จะจมอยู่กับอดีตแล้วไม่สนปัจจุบันนั้นอาจผิดก็ได้
- การเดินเล่นยามราตรีใน Paris ถ้าเรื่องราวที่พระเอกไปเจอไม่ใช่..... สิ่งนั้นก็อาจเป็นการสะท้อนถึงเรื่องของจินตนาการที่เดินออกไปยามราตรี ผ่านสถาปัตที่สวยงามโบราณ และน่าหลงใหล
-  เพิ่มเติม อีกประเด็นของหนังที่แฝงมา จิล คิดว่าการเดินตากฝนกลางปารีสมันโรแมนติกดี และสวยงามยิ่งกว่าไหนๆ มันอาจสะท้อนถึงความชอบ ความชอบของแต่ละคน สุดท้ายของหนัง ของเรา ของทุกคน "ใครละจะเดินกลางฝนไปกับเรา"

* ถ้าใครอยากหาหนังที่ไม่ตึงตัง โครมคาม อยากปล่อยจิตใจชมหนังสบายๆ ภาพสวย เพลงเพราะ ลองไปเดินเล่นยามราตรีที่ปารีสดูครับ 
** หนังเข้า SF Central World ทีเดียวนะครับ

IMDB : 7.8/10
Rotten Tomatoes : 93%
Makopto : 9/10 

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Sin City เมืองคนบาป (2005)



SIN CITY เมืองคนบาป  ภาพยนตร์ฟิล์มนัวร์ที่มีเสน่ห์เหลือหลาย

ฉากเปิดตัวภาพยนตร์สุดมีเสน่ห์
SINCITY : เป็นภาพยนตร์ที่สรัางจากการ์ตูนชื่อเดียวกันผลงานของ Frank Miller ซึ่งตัวหนังก็ได้ผู้สร้างเมืองนี้ขึ้นมาช่วยกำกับร่วมกัน โดยภาพในภาพยนตร์นั้นถอดฉากมุมภาพมาจากการ์ตูนทีละช๊อตทีละช๊อต โดยเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ทำ CG ได้เนียนมาก โดยเนื่้อเรื่องเล่าถึงเรื่องราวอาชญกรรมที่เกี่ยวกับคน 3 คน 
คนแรก hartigan (Bruce Willis)  ตำรวจใกล้เกษียณที่ต่อสู้กับความไม่ถูกต้องของสังคม
คนที่สอง Marv (Mickey Rourke) ชายหนุ่มหน้าตาน่ากลัวที่ต้อสู้เพื่อ โกลดี้ ผู้หญิงที่ตนรัก
คนที่สาม Dwight (Clive Owen) ผู้ชายที่ต้อสู้เพื่อปกป้องผู้หญิง และ คนอื่น

โดยเนื้อเรื่องจะเป็นการเล่าสลับฉากแต่ทั้งสามเรื่องนั้นจะมีความเกี่ยวข้องกันอยู่ 
เริ่มต้นจากราวของ Hartigan นายตำรวจใกล้เกษียณที่ตาม โร้ดจูเนียร์ ผู้ร้ายฆ่าขมขื่นเด็กสาว ไปถึงโกดังท่าเรือเพื่อช่วยเหลือ แนนซี่ เด็กสาวที่ถูกจับตัวมา จนใกล้จะฆ่าโร้ดจูเนียร์ (ยิงเจ้าโลกทิ้งไปแล้ว) ก็ถูกคู่หูของตัวเองหักหลัง จบลงด้วยตัวเองตายและเด็กรอดชีวิต
(หนังตัดสลับพาไปดูเรื่องราวของ Marv และ Dwight ก่อนจะกลับมาเล่าเรื่องของ Hartigan อีกครั้ง)

โร้ดจูเนียร์ในสภาพน้องอึ
(เปรียบเทียบกับมุมการ์ตูน)
Hartigan ที่คิดว่าตอนแรกตายแล้วนั้นจริงๆยังไม่ตาย ถูกช่วยชีวิตไว้โดย โร้ด(คนพ่อ) ที่ต้องการป้ายความผิดของลูกชายตัวเองทั้งหมดไปให้กับเขา ซึ่่งแม้ Hartigan จะรอดชีวิตมาได้แต่ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ในคุกอีก 8 ปี มีเพียงจดหมายจากหนูน้อยแนนนี่ที่เขาได้ช่วยชีวิตเป็นกำลังใจ แต่ก็มีเหตุให้เขาต้องออกจากคุกพร้อมยอมสารภาพรับผิดทั้งหมด เพื่อออกมาตามหาหนูน้อยแนนนี่ หลังจากได้จดหมายที่ได้รับทุกสัปดาห์กลายเป็น นิ้วมือของหญิงสาว

หนังหักมุมอีกครั้ง กลายเป็น โร้ดจูเนียร์วางแผนปล่อย Hartigan ออกมาเพื่อให้ตามหาแนนนี่ และ ตนจะได้แก้แค้น Hartigan ตามหาแนนซี่จนเจออีกครั้ง และครั้งนี้ก็เป็นเหมือนครั้งแรก เสียท่าให้กับโร้ดจูเนียร์จนต้องตามไปช่วยแนนซี่อีกครั้ง และค่่าโร้ดจูเนียร์สำคัญ ก่อนที่ Hartigan จะตัดสินใจครั้งสำคัญเพื่อช่วยชีวิตแนนนี่ตลอดไป โดยการที่ ตาแก่หนึ่งคนตาย เด็กสาวหนึ่งคนรอด

หลังจากจบยุคของ Hartigan
Marv ชายหนุ่มหน้าตาอัปลักษณ์ที่หลงรัก โกลดี้ โสเภณีเกรดเอ โกลดี้ตายในอ้อมอกของเขาขณะนอนหลับหลังร่วมกิจกัน เป็นเหตุให้ชายหนุ่มต้องสืบหาความจริงของฆาตกร และสืบไปถึงตัวของ โร้ดคนพ่อ ที่หลังเสียลูกชายไปก็เลิกฝันที่จะเป็น ประธานาธิบดี มาเป็น บาทหลวง ผู้ทรงอิทธิพลแทน โดยโร้ดและเควิน ลูกเลี้ยงของบาทหลวงโร้ดนิยมจับโสเภณีมาขังและกินเนื้อมนุษย์ ที่เมื่อ Marv สืบไปถึงก็โดนใส่ร้ายข้อหา จนเอาตัวแทยไม่รอด โดย Marv จะมีผับประจำซึ่งเขาจะไปนั่งกินเสมอคือ ผับที่แนนนี่ทำงานอยู่ ซึ่งแนนซี่ก็จะคอยช่วยเหลือเขาเป็นประจำ อาจด้วยที่ Marv มีจิตใจที่ดีเหมือนกับ Hartigan
หลังจากภาคยุคของ Marv (ตระกูลโร้ดตายจนหมด)

เมือง โฮลด์ดินแดนโสเภณี ก็มีการทำข้อตกลงกับทางตำรวจเพื่อปกครองตัวเอง โดยให้สิทธิพิเศษกับตำรวจถ้าไม่เข้ามายุ่งกับเมือง Dwight กับแฟนใหม่สาวบาร์ ที่แฟนเก่าของเธอมักจะเมานำเปลและมาตบตีเธอเป็นประจำ Dwight ที่ตอนนั้นอยู่ในห้องก็ทำการสั่งสอนแฟนเก่าเจ้าปัญหาของเธอไป และคิดจะตามไปจัดการให้จบเพราะกลัวแฟนเก่าของเธอจะไปทำร้ายผู้หญิงคนอื่นต่อ Dwight จึงตามเข้าไปจนถึงเมืองโฮลด์ทาวน์ และช่วยกันจัดการกับเหล่าโสเภณีที่ปกป้องเมืองอยู่ จนมารู้ทีหลังว่า แฟนเก่าคนนี้เป็นตำรวจ เขาจึงวางแผนจะนำศพไปทิ้งที่บ่อน้ำมันตำรวจจะได้หาศพไม่เจอ แต่แผนก็ต้องแตกเพราะ เบ็คกี้ หญิงสาวโสเภณีที่อยู่ในเหตุการณ์โทรแจ้งตำรวจ Dwight จึงต้องเจอเรื่องวุ่นๆและร่วมมือกับ Miho (Devon Aoki) จัดการกับตำรวจที่รู้เรื่องทั้งหมดในเมือง แต่จนแล้วจนรอด เบ็คกี้ก็สามารถหนีไปได้ 
ฉากเริ่มต้นเรื่อง นักฆ่าหนุ่มบนตึกกับสาวชุดแดง ที่ปลอมตัวเป็นหมอและดักเจอเบ็คกี้ในต้นท้ายของเรื่องในลิฟต์โรงพยาบาล

* เนื้อเรื่องของหนัง ฆาตกรรม เลือดสาด กำปั้น โสเภณี ปืน กับบรรยากาศแบบฟิล์มนัวร์ทำได้ลงตัวอย่างยิ่ง ซึ่งการทำแบบนี้ทำให้ฉากโหดก็ดูไม่โหดจนเกินไป
** บรรยากาศนัวร์ และการเล่นเฉดสีของหนังทำได้กลมหลืนและขับเสน่ห์ของหนังเป็นอย่างมาก
(ฉากเสื้อแดงเปิดตัว ฉากเตียงแดง รองเท้าแดง สวยงามจนตรึงตา และไอ้ตัวเหลืองน่าเกลียดได้ใจ)
*** การเล่าเรื่องที่เป็นเสียงนึกคิดในหัว ผมว่านี้คือเสนห์อีกอย่างหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ (หลายคนอาจจะเบื่อ แต่ดูไปไม่นานก็น่าจะชิน เหมือนอ่านการ์ตูน)
**** เผื่อคนที่สงสัย ฟิล์มนัวร์ (Film Noir) ชื่อเรียกประเภทของภาพยนตร์ประเภทหนึ่ง โดยที่คำว่า Noir เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า "ดำ" หากจะแปลกันตรง ๆ ตัว ฟิล์มนัวร์ จึงแปลว่า "ฟิล์มดำ" หรือ "ภาพยนตร์ดำ" หรือ "ภาพยนตร์มืด"

IMDB : 8.3/10
Rotten Tomatoes : 78%
Makopoto : 10/10 (ชอบหนังดาร์กๆ เนื้อเรื่อง และ ฉากสี)

ของแถม
Jessica Alba ในบท Nancy
Megan Fox ไม่เกี่ยวกับหนังแต่ Sexy เหมือนกัน



วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Tekken Blood Vengeance [Animation]








Tekken Blood Vengeance ภาพยนตร์จากเกมต่อสู้ศึกชิงเจ้าหมัดเหล็ก Tekken ที่ครั้งนี้ถูกสร้างขึ้นแบบ CG Animation ไม่ใช่ภาคแบบคนจริงแสดงอีกแล้ว หลังจากผู้สร้าง Tekken หัวเสียสุดๆที่ Hollywood นำไปทำไม่ได้เรื่อง สุดท้ายเลยตัดสินใจสร้างเองในแบบ CG Animation แทน




เนื้อเรื่อง : ยังคงเป็นการต่อสู้ของตระกูล Kazama ที่ ปู่(ฮาเฮจิ) พ่อ(คัทซึยะ) ลูก(จิน) โดยเนื่อเรื่องภาคนี้ เกี่ยวกับ Kamiya Shin ผู้รอดชีวิตจากการทดสอบเซลล์ M ซึ่งทำให้ตนเป็นอมตะ จึงเป็นที่ต้องการตัวของทั้ง 3 ปู่พ่อลูก Ling Xiaoyu (ผู้หญิงกับแพนด้า) จึงถูก Nina ส่งเข้าไปเป็นสายลับเพื่อเข้าใกล้ตัว Shin .....

(ตัวอย่างภาพสวยจาก Animation ครับ)

พูดคุยถึงหนังเรื่องนี้

1. ถ้าพูดถึง Tekken คนแสดง กับ Tekken Animation ความสนุกให้กับทาง Animation ถ้าความมันส์จากฉากต่อสู้ให้กับทาง คนแสดง ในตัว Animation มีเนื้อเรื่องที่ดี แต่ในฉาก ต่อสู้ ยังดึงความเป็น Tekken ออกมาไม่ค่อยได้



2. Animation ไม่ได้ทำให้เรารู้เรื่องของ Tekken มากขึ้น (หรือเพราะผมไม่เคยเล่นเกมส์แบบเนื้อเรื่องด้วย เวลาเล่นก็ VS กับเพื่อนตลอด) รู้เพิ่มเติมมาเพียง ปู่พ่อลูก แบ่งฝ่ายเพื่ออะไร ตัวละครคนอื่นไปไหน แปลงเป็นปีศาจได้ยังไง อันนี้ไม่เข้าใจ = ="

3. ตัวละครที่อยากเห็นโชว์ฝีมือและคิดว่าน่าจะได้เห็น คือ อาจารย์ ลี แต่ไฉนอาจารย์ได้แต่โชว์นิ้วโป้งเท่ๆเท่านั้นเอง


IMDB : 5.8/10
Rotten Tometoes : 54%
Makopoto : 5/10  ดูไม่ดูก็ได้จ้าาาา






วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Bridesmaids เรื่องวุ่นๆเมื่อเพื่อนสาวจะแต่งงาน

Bridesmaids เรื่องวุ่นๆเมื่อเพื่อนสาวจะแต่งงาน


เรื่องย่อ : Annie Walker ถูกรับเชิญให้เป็นเพื่อนเจ้าสาวในงานแต่งของเพื่อนสนิท Lillian ซึ่งในกลุ่มเพื่อนเจ้าสาวที่ Lillian แนะนำให้เธอรู้จักมี Helen เพื่อนสนิทสุดโลิศหรูคนใหม่ของ Lillian ที่คอยแข่งขันกับเธออยู่เสมอ เรื่องราววุ่นๆของเพื่อนเจ้าสาวจึงเริ่มขึ้น






พูดถึงหนังเรื่องนี้

1. สำหรับเรื่อง Bridesmaids ถูกเรียกว่า Hangover ฉบับผู้หญิงแสดง พร้อมทำเงินถล่มทลายในอเมริกา 170 ล้านดอลล่าร์ คำเปรยข้างบนทำให้หนังเรื่องนี้น่าดูอย่างยิ่ง


2. หนังเล่าประเด็นเรื่องของ Annie ที่ชีวิตช่วงนั้นเจอแต่เรื่องร้ายๆ อาจเพราะดวงซวย แต่จริงๆ Annie แน่จะเป็นนิสัยของคนไม่แก้ปัญหา (เอาไว้ก่อน) จนทำให้ปัญหาหลายๆเรื่องกองทับภมกันรอวันระเบิด เมื่อมันเยอะมากขึ้นเธอจึงรับไม่ไหว จนถึงวันที่เธอมาตามแก้แล้วรู้ว่าเรื่องราวต่างๆไม่ได้เลวร้ายเสมอไป

3. Helan ตัวละครที่ดูดีสมบูรณ์ทุกอย่าง ดูจะเป็นตัวร้ายคอยปันหัวนางเอก แต่จริงๆเธอก็มีปมในใจที่ทำให้เธอเป็นอย่างนั้น สิ่งที่เราดูว่าจะเพอร์เฟ็คมันไม่มีจริง


4. เนื้อเรื่อง และ การดำเนินเรื่อง ดูแล้วอาจจะเบื่อๆ ฮาๆ อาจเป็นมุขของฝรั่งและสาวๆที่ทำให้ ผมไม่เก็ทและไม่ขำ (นั่งดูกับสาวสาวก็ไม่ขำนะ แทบเบื่อกว่าผมอีก) ถ้าจพดูเอาฮา ไม่เวิร์คจ้าาา

5. Wilson Phillips - Hold On เพลงตอนจบของเรื่อง เล่าเนื้อเรื่องประเด็นสำคัญ แนวคิดทั้งหมดของเรื่องนี้หมดแล้ว ฟังเพลงก่อนไปอาจจะทำให้อินมากขึ้น รึเปล่า


IMDB : 7/10
Rotten Tometoes : 90%
Makopoto : 6/10 เฉยๆดูไม่ดูก็ได้

วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Gran Torino อย่ามาเก๋าเกินหน้าปู่

Gran Torino อย่ามาเก๋าเกินหน้าปู่



เนื้อเรื่องย่อ : Walt Kowalski คุณปู่นายทหารเหรียญกล้าหาญ ทีไม่สนิทกับลูกชายแท้ๆของตัวเองเลย และมักมีปัญหากับเรื่องต่างๆอยู่เสมอ หลังคุณยายคู่ชีวิตเสียไปไม่นาน และครอบครัวชาวเวียดนามย้ายเข้ามาข้างบ้าน นำพาเรื่องขัดใจมากมายเข้ามา คุณปู่เลยต้องโชว์เก๋า







พูดถึงหนังเรื่องนี้

1. สำหรับใครที่เห็นหน้าปกเป็นคุณปู่ถือปืน + รถซิ่ง แล้วหวังว่าจะเป็นหนัง บู๊แอ๊คชั่น ขอให้ทำความเข้าใจใหม่ก่อน (เหมือนตัวผม) หนังเรื่องนี้อยู่ในหมวด Drama นะครับ เป็นเรื่องราวชีวิตของคุณปู่ผสมฉาก แอคชั่นเท่ๆของชายชาญทหาร


2. การวางพลอตเรื่อง ช่วงแรกจะปูนำทางให้ดูเหมือนปู่คนนี้เป็นคนเยอะเข้ากับคนยากเก็บตัวเรื่องมาก อาจจะมีเบื่อบ้างเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆเปิดมุมต่างๆของคุณปู่ กลายเป็นคุณปู่สุดเก๋าที่น่ารักไปอีกแบบ (สำหรับสังคมแบบอเมริกันคุณปู่อาจเป็นคุณปู่หัวโบราณ วุ่นวายเรื่องมาก แต่สำหรับสังคมเอเชีย ผมว่าคุณปู่แกน่ารักดี )


3. บุคลิกของคุณปู่ Walt Kowalski ที่รับบทแสดงโดย Clint Eastwood ถ้าใครได้ดูภาพมันคงติดตาไปอีกนาน กับความเก๋าวามเท่และน่ารัก
4. ฉากจบของเรื่อง ขอยกให้เป็นฉากจบที่เก๋าที่เท่ ที่สุดที่ได้ดูในรอบปีนี้ (อยากรู้ว่าฉากอะไรยังไงต้องหามาดูครับ)

IMDB : 8.3/10
Rotten Tomatoes : 80%
Makopoto : 10/10 และถ้ามีเวลาควรหามาดูครับ ^^